ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์ระหว่างวันที่ 14-18 ก.ค. 2568 ที่ระดับ 32.20-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.43 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ
สำหรับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(4 ก.ค.68) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 7-11 ก.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 2,930 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 2,824 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 2,193 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 631 ล้านบาท)
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย จำกัดหรือKSecuritiesมองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,110 และ 1,100 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,130 และ 1,145 จุด ตามลำดับ ในวันศุกร์ที่ 11 ก.ค. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,121.13 จุด เพิ่มขึ้น 0.11% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 30,128.95 ล้านบาท ลดลง 19.27% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.80% มาปิดที่ระดับ 236.42 จุด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย(K Research)ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้ารวมถึงไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีน อาทิ ตัวเลขส่งออก ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร