ทรัมป์ รีดภาษี 14 ประเทศ นลท.หันหาสินทรัพย์ปลอดภัย ลุ้นทองคำพุ่ง 51,800 บาท
กูรูชี้ราคาทองคำผันผวนสูง หลัง ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษี 14 ประเทศ มีผล 1 ส.ค. นี้ กระทบต่อเศรษฐกิจต่อเนื่อง นักลงทุนหันหน้าพึ่งสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่ม พร้อมคาดมีลุ้นไปทดสอบที่ระดับ 3,400 ดอลลาร์/ออนซ์
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำมีโอกาสผันผวนสูงในสัปดาห์ (9 - 13 ก.ค.67) นี้ โดยข่าวใหญ่ที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การที่สหรัฐฯ เดินหน้ากดดันการค้าโลกอย่างต่อเนื่อว
ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก 14 ประเทศ โดยประเทศที่ถูกขึ้นภาษีมีทั้งในเอเชีย แอฟริกา และยุโรป ซึ่งอัตราภาษีจะแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ 25% ไปจนถึงสูงสุด 40% และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 ส.ค. นี้
การเดินหน้าขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ เป็นการกดดันประเทศคู่ค้าผ่านการส่งจดหมายแจ้งเตือน และเตรียมบังคับใช้มาตรการภาษีชุดใหม่ในเดือนส.ค. ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ตลาดกลับเข้าสู่โหมดความกังวล ภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจะกลับมาอีกครั้ง
และกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะทองคำ ซึ่งมีโอกาสดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะประกาศความคืบหน้าในการเจรจากับคู่ค้าบางประเทศออกมาด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงขายออกมาบ้างในบางระยะง
ดังนั้น จากประเด็นดังกล่าว ฝ่ายวิจัยประเมินกลยุทธ์การลงทุนในทองคำรอจังหวะเข้าเก็บเมื่อราคาทองไม่หลุด 3,280 ดอลลาร์/ออนซ์ ภาพรวมราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทางบวก โดยในระยะสั้นเริ่มปรับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น คาดว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้
การย่อตัวจังเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าเก็บไม่ว่าจะเป็น 3,300 / 3,285 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยประมาณ 50,750 / 50,500 บาท โดยมองว่าสามารถเข้าเก็บสะสมได้ เพียงแต่มีจุดเฝ้าระวังสำคัญ คือ ราคาไม่ควรหลุดระดับ 3,280 ดอลลาร์/ออนซ์
เนื่องจากหากต่ำกว่าระดับนี้ แนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นจะเริ่มอ่อนแรง สำหรับแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 3,372 ดอลลาร์/ออนซ์ หากสามารถทะลุและยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ ราคามีโอกาสปรับขึ้นต่อไปยังแนวต้านถัดไปที่ 3,400 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 3,430 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยประมาณ 51,800 และ 52,200 บาท ตามลำดับ