นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย นักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ (19-25 พ.ค.68) ยังคงมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่อง หลังจาก "มูดี้ส์ เรทติ้งส์" ออกมาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ จากระดับ Aaa ลงมาอยู่ที่ Aa1 โดยให้เหตุผลว่า หนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น และภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็เพิ่มขึ้นด้วย
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเจรจาเรื่องภาษีการค้ากับประเทศต่างๆ ยังล่าช้าอยู่ และในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ สหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายถึงประเทศต่างๆ ถึงอัตราภาษีใหม่ที่ต้องจ่าย หากยังต้องการทำธุรกิจกับสหรัฐฯ ดังนั้น ประเด็นภาษียังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อในสัปดาห์นี้
พร้อมทั้งจับตาการหารือระหว่าง “ทรัมป์” กับ “ปูติน” ผู้นำรัสเซีย เพื่อหารือเรื่องการยุติสงครามในยูเครน และเรื่องการค้า ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้มีขึ้นหลังจากผู้แทนจากยูเครนและรัสเซียได้ประชุมร่วมที่นครอิสตันบูล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันก็เป็นที่น่าจับตาว่าประธานเฟดของแต่ละสาขา ที่คาดว่าจะออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต จะออกมาในทฺศทางใดต่อไป
โดยทาง GCAP GOLD ประเมินกลยุทธ์การลงทุนในทองคำ โดยทยอยแบ่งขายหากราคาขึ้นมาปิด GAP ที่ 3,325 / 3,360 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ภายในสัปดาห์นี้หากราคาทองคำไม่ย่อลงมาทำ Low ใหม่ที่ต่ำกว่า 3,120 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
อีกครั้ง จะทำให้ภาพรวมทองคำขาขึ้นระยะสั้นดูดีขึ้น และหากราคาสามารถทะลุขึ้นไปยืนที่ 3,250 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ได้ คิดเป็นราคาทองคำไทย 51,500 บาท มีโอกาสลุ้นขึ้นไปปิด GAP ที่เปิดไว้ที่ 3,325 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และ 3,360 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งราคาทองคำไทยอาจจะเห็นที่ระดับ 52,500–52,800 บาท