ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักกว่า 3% ในวันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2568 เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐฯ และจีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราวระหว่างกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิถุนายน ดิ่งลง 116 ดอลลาร์ หรือ 3.47% ปิดที่ระดับ 3,228.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ความคืบหน้าด้านการค้าเกิดขึ้นหลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้เจรจากับเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยทั้งสองประเทศตกลงปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนลดลงสู่ระดับ 30% จากเดิม 145% ขณะที่จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ลงมาอยู่ที่ 10% จากเดิม 125%
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นกว่า 1% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและลดความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี และดัชนี CPI พื้นฐานจะปรับตัวขึ้น 2.8% เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุม Thomas Laubach Research Conference ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม เวลา 19.40 น. ตามเวลาไทย