ค่าเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดรอบ 7 เดือนที่ 33.03 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาปิดตลาดวันที่ 2พ.ค.ที่ 33.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดต่างประเทศวานนี้ที่ 33.51 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุนจากการแข็งค่าของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคและเงินหยวนในตลาดออฟชอร์ หลังเริ่มมีสัญญาณเกี่ยวกับการเตรียมเจรจาเรื่องภาษีการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,354.52 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 1,578 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -24.27 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -21.13 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (6-9 พ.ค.) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ระดับ 32.80-33.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมเฟด (6-7 พ.ค.) การประชุม BOE (8 พ.ค.) สถานการณ์ของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ราคาทองคำในตลาดโลก และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือนเม.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของไทย ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนเม.ย. ของจีน ยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น รวมถึงตัวเลขการส่งออกและข้อมูลเศรษฐกิจอื่นในเดือนเม.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน