ค่าเงินบาทปิดตลาดในประเทศวันนี้ 22มี.ค.ที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ

22 มี.ค. 2567 | 12:08 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มี.ค. 2567 | 12:12 น.

ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าลงตามทิศทางสกุลเงินเอเชียอื่นๆ รวมถึงเงินหยวนของจีน สอดคล้องกับจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำและฟันด์โฟลว์ กรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้า 25-29 มี.ค.ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.00-36.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือน ที่ 36.48 ก่อนจะกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า  เงินบาทยังคงอ่อนค่าลงตามทิศทางสกุลเงินเอเชียอื่นๆ รวมถึงเงินหยวนของจีน ซึ่งเผชิญแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนอาจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาท

ยังสอดคล้องกับจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกและสัญญาณฟันด์โฟลว์ (โดยในวันนี้ ต่างชาติขายสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทย 2,209 ล้านบาท และ 627.25 ล้านบาท ตามลำดับ) ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงมีแรงหนุนทางอ้อมอย่างต่อเนื่องจากสัญญาณผ่อนคลายหรือเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางแห่งอื่นๆ

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 22 มีนาคม 2567 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -28.93 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -25.79 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (25-29 มี.ค.) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.00-36.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตัวเลขการส่งออกและรายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนก.พ. ของไทย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่

อดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคา PCE และ Core PCE เดือนก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 (final) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.-ก.พ. ของจีน และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ของอังกฤษด้วยเช่นกัน