ค่าเงินบาท "แข็งค่า"ปิดตลาดที่ระดับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์

29 ก.ย. 2566 | 12:03 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ย. 2566 | 12:12 น.

ค่าเงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันและทำกำไรก่อนปิดสิ้นไตรมาส และรับแรงหนุนบางส่วนจากสัญญาณฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย

ค่าเงินบาทแข็งค่ามาปิดตลาดที่ระดับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 36.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันและทำกำไรก่อนปิดสิ้นไตรมาส ขณะที่ตลาดกลับมารอติดตามความเสี่ยงของการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ เงินบาทยังน่าจะได้รับแรงหนุนบางส่วนจากสัญญาณฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน (ในวันนี้ ซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 1,071.48 ล้านบาท และ 2,152 ล้านบาท ตามลำดับ) 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 29 กันยายน 2566 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -32.16 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -28.92 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 2-6ต.ค.2566 คาดไว้ที่ 36.20-36.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ

ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและภาคบริการ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนก.ย. รายงาน JOLTs ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนก.ย. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษด้วยเช่นกัน