เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 33.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดในประเทศวานนี้ที่ 33.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบจากสัญญาณชะลอตัวของตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ และความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิบอนด์ระยะสั้นของไทยอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี กรอบการแข็งค่าของเงินบาทเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากตัวเลข CPI และ PPI เดือนเม.ย.ของจีนที่ชะลอลง กดดัน Sentiment ของเงินหยวน และสกุลเงินเอเชียในภาพรวม
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ แม้นักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิหุ้นไทย 1,600.64 ล้านบาท แต่ก็ยังคงมีสถานะ Net Inflows ในตลาดพันธบัตรไทย 5,641 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 2566 โดยธปท. อยู่ที่ -32.63 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -28.97 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 33.50-33.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ การเจรจาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. (เบื้องต้น) และดัชนีราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ