CHOW ขาขึ้นธุรกิจเหล็กฟื้น โค้งแรกกำไรพุ่ง 380% ธุรกิจพลังงานไปได้สวย

22 พ.ค. 2559 | 10:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

เชาว์ สตีล กลับมาผงาด โค้งแรกกำไรพุ่ง 381.60% หลังธุรกิจเหล็กฟื้นตัว ราคาเหล็กปรับขึ้น/ออร์เดอร์เพิ่ม ขณะที่ธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญ มั่นใจปี 59 กลับมาโชว์ฟอร์มสวย หลังพบออร์เดอร์เหล็กพุ่งต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจพลังงานเตรียมขายไฟเพิ่มอีกหลายโครงการ กำลังการผลิตรวมกว่า 80 เมกะวัตต์ จากปี 58 ขายไฟได้เพียง 8.92 เมกะวัตต์

[caption id="attachment_54861" align="aligncenter" width="700"] ราคาหุ้น บมจเชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ราคาหุ้น บมจเชาว์ สตีล อินดัสทรี้[/caption]

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) (บมจ.)(CHOW) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงาน ประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 3 เดือนประจำไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 ว่า บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 48.83 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.06 บาท เพิ่มขึ้น 66.16 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็น 381.60 % เทียบกับปี 2558 ที่มีขาดทุนสุทธิรวม 17.34 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นมาจากบริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวมสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 จำนวน 1.29 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.85 % เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีรายได้รวม 663.35 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายเหล็กเพิ่มขึ้น 20.66 % สาเหตุเนื่องจากมีการนำเข้าเหล็กลดลงตามมาตรฐานของรัฐบาล ทำให้ราคาสินค้าเริ่มปรับตัวสูงขึ้น และบริษัทสามารถขายสินค้าได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น

ส่วนบริษัทย่อยได้รับรู้รายได้จำนวน 581.57 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าในต่างประเทศจำนวน 4โครงการและในประเทศ 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 15.64 เมกะวัตต์ และรายได้จากการพัฒนาโครงการจำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 12 เมกะวัตต์ และรายได้จากการก่อสร้างโครงการตามอัตราส่วนงานที่ทำเสร็จจำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 27.22 เมกะวัตต์

นายอนาวิลกล่าวอีกว่า การปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของรายได้และกำไรในไตรมาสแรกปี 2559 เชื่อว่าจะส่งผลต่อเนื่องให้ผลประกอบการในปี 2559 มีแนวโน้มเติบโตจากปี 2558 อย่างชัดเจน จากการฟื้นตัวของธุรกิจเหล็กต้นน้ำ และจากการรับรู้รายได้เพิ่มในธุรกิจพลังงาน ที่ได้ลงทุนไปแล้วในปี 2558 ที่ผ่านมา โดยพบว่าในปี 2559 ความต้องการใช้เหล็กในประเทศได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาครัฐใช้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เข้ามาควบคุมคุณภาพเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้เหล็กคุณภาพต่ำจากต่างประเทศไม่สามารถเข้ามาจำหน่ายในประเทศได้ ส่งผลให้ราคาเหล็กในประเทศปรับตัวดีขึ้น และผู้ประกอบการเหล็กปลายน้ำหันมาสั่งซื้อเหล็กต้นน้ำที่ผลิตในประเทศเพิ่มมากขึ้นในทิศทางเดียวกันด้วย

โดยปีนี้อุตสาหกรรมเหล็กแท่งยาว หรือ Steel Billet ดีขึ้นตั้งแต่เดือนแรกของปี จากการใช้มาตรฐาน มอก.เข้ามาควบคุมคุณภาพเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้เหล็กคุณภาพต่ำเข้ามาในตลาดไทยได้ยากขึ้น โดยพบว่า CHOW เริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าเหล็กต้นน้ำเข้ามาหนาแน่นขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาน้อยมาก ซึ่งจะสนับสนุนให้ธุรกิจเหล็กฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ประกอบกับในปีนี้จะรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานเข้ามาเพิ่มจากโครงการที่พร้อมขายไฟในปี 2558 และจากโครงการใหม่ที่จะสร้างเสร็จและพร้อมขายไปในปีนี้ ซึ่งคาดว่าไม่ต่ำกว่า 80 เมกะวัตต์ ดังนั้นจะสะท้อนให้ผลประกอบการของ CHOW ในปีนี้กลับมาเติบโตโดดเด่นได้อีกครั้ง ตามแผนงานที่ได้วางไว้

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,158 วันที่ 19 - 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559