“จตุพร” นำคณะหลอมรวมฯ ยื่น 3 ข้อเรียกร้องถึง รมว.คลัง จี้แก้ปัญหาราคาพลังงาน

30 มิ.ย. 2565 | 08:39 น.

“จตุพร พรมพันธุ์” นำคณะหลอมรวมประเทศไทย ยื่นหนังสือ 3 ข้อเรียกร้อง ถึง รมว.คลัง ให้ใช้สิทธิผู้ถือหุ้นใหญ่ ปตท. ปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และออก พ.ร.ก.เก็บภาษีลาภลอยในกลุ่มทุนพลังงาน ชี้หาก “บิ๊กตู่” แก้ปัญหาไม่ได้ ให้ลาออก

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2565 นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ตัวแทน ประเทศไทยต้องมาก่อน คณะหลอมรวมประชาชน เดินทางมาที่กระทรวงการคลัง เพื่อยื่นหนังสือถึง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะเป็นหน่วยงานรัฐที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัท ปตท. ให้ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายมาแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน โดยมีนายชื่นชอบ คงอุดม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับหนังสือแทน

 

ทั้งนี้ คณะหลอมรวมประชาชน ได้เรียกร้องให้กระทรวงการคลังเรียกประชุมผู้ถือหุ้น ปตท. ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ปรับโครงสร้างราคา ลดราคาค่ากลั่น ยกเลิกราคาสมมติอ้างอิงสิงคโปร์และซาอุดีอาระเบีย หากทำไม่ได้ขอให้คืนกิจการพลังงาน ทรัพยากรพลังงานให้เป็นของประชาชน

นายจตุพร  กล่าวถึงกรณีนายกฯ บอกน้ำมันแพงเป็นปัญหาทั่วโลกว่า หากแก้ปัญหาไม่ได้ก็ควรลาออก เพื่อให้คนที่แก้ไขได้เข้ามาทำงานแทน เพราะถือว่าขาดประสิทธิภาพ

 

ขณะเดียวกัน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ชวนให้คนไทยช่วยกันเข็นรถประเทศไทยไปข้างหน้าว่า ในฐานะนายกฯ เป็นผู้ถือพวงมาลัยและกำลังหันหัวรถลงเหว จึงขอชวนคนไทยลงจากรถและช่วยเข็นรถที่นายกฯขับลงเหวไปคนเดียว ไม่ใช่พาประชาชน ประเทศชาติลงเหวไปด้วย

“จตุพร พรมพันธุ์” นำคณะหลอมรวมประเทศไทย ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง ถึง รมว.คลัง

สำหรับการยื่นหนังสือถึง รมว.คลัง มี 3 ข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย

1. ให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ปตท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ และบริษัทที่ถือหุ้นโดยตรงและโดยอ้อม และมีอิทธิพลต่อการบริหารธุรกิจน้ำมัน เป็นผู้มีบทบาทชี้นำต่อกลุ่มทุนพลังงานและผู้ถือหุ้นว่าต้องดำเนินกิจการตามหลักธรรมาภิบาล

 

2.นำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติปรับปรุงแก้ไขการกำกับราคาพลังงาน โดยห้ามโรงกลั่นบวกกำไรเพิ่มขึ้นจากเนื้อน้ำมัน ให้โรงกลั่นบวกกำไรเพิ่มขึ้นได้เฉพาะจากต้นทุนการกลั่นที่เป็นจริง โดยมีการกำหนดเพดานราคาบนพื้นฐานที่ไม่กระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน

 

และ 3.เสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดเก็บภาษีลาภลอยกับกลุ่มทุนพลังงาน น้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี ที่ได้รับประโยชน์จากกำไรเกินสมควรอันไม่เป็นธรรม เพื่อนำภาษีดังกล่าวมาช่วยลดราคาพลังงานและค่าครองชีพประชาชน