บลจ.ไทยพาณิชย์ รุกลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด

17 ม.ค. 2565 | 08:15 น.

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดขายกองทุน SCBGPA IPO 17–21 ม.ค.นี้ รุกลงทุน Private Assets หรือ สินทรัพย์นอกตลาดทั่วโลก มีโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวสูง

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัดเปิดเผยว่า การลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด (Private Asset)นับว่า เป็นหนึ่งในการลงทุนที่น่าสนใจเพราะเป็นการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว จึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Private Assets ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (SCB Global Private Assets Not for Retail Investors:SCBGPA)

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ. ไทยพาณิชย์

 

SCBGPA เป็นกองทุนประเภท Complex fund มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 17 – 21 ม.ค. 2565  นี้ ด้วยเงินลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 500,000 บาท โดยสามารถซื้อขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันที่ 20 ของเดือน 

Private Assets คือ การลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด สามารถแบ่งเป็น Private Equity, Private Credit และ Private Real Assets สำหรับ Private Equity นั้นคือ การลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หรือเรียกว่า Private Company 

 

Private Equity มีจุดประสงค์ เช่น การระดมทุนตั้งแต่ช่วงก่อตั้งกิจการ (Venture Capital), ระดมทุนเพื่อขยายกิจการในบริษัทที่อยู่ในช่วงเติบโต (Growth Capital) หรือในช่วงบริษัทที่มีกระแสเงินสดมั่นคง (Buyout) โดยมีความผันผวน (Volatility) และค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) ต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นโลก จึงเป็นการช่วยสร้างการกระจายตัวพอร์ตการลงทุนรวม อีกทั้งการลงทุนใน Private Equity มีผลตอบแทนที่ชนะตลาดหุ้นโลกในระยะยาว

“ปี 2021 ที่ผ่านมา ตลาดการลงทุนใน Private Assets ทั่วโลก มีการฟื้นตัวได้ดีทั้งตลาดแรกและตลาดรอง ประกอบกับสไตล์การลงทุนที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะตลาด จึงสามารถช่วยเพิ่ม Risk-Adjusted Return ได้ในระยะยาว"

 

อีกทั้งการลงทุนใน Private Equity ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้สูงกว่าเมื่อเทียบกับ Public Equity โดยกองทุน SCBGPA จะทำการกระจายการลงทุนหลากหลายหลักทรัพย์และกลยุทธ์ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนระยะยาวและช่วยลดความผันผวนแก่พอร์ตการลงทุน ทั้งยังรับมือกับสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นได้ 

 

นอกจากนี้ กองทุนยังได้ทีมบริหารเครือข่ายการลงทุนระดับโลกอย่าง Hamilton Lane มาเป็นผู้บริหารกองทุนด้วยกลยุทธ์ Deal Flow Strategy และกระบวรการลงทุนที่นำนำเทคโนโลยีและข้อมูลเข้ามาช่วยวิเคราะห์และติดตามการลงทุนอย่างเชี่ยวชาญ จึงทำให้กองทุน SCBGPA นี้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น


กองทุน SCBGPA เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Hamilton Lane Global Private Assets (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ชนิดหน่วยลงทุน (share class) I-USD สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) กองทุนหลักบริหารโดย Hamilton Lane Advisors, L.L.C. จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก และอยู่ภายใต้ UCITS 

 

มีกลยุทธ์การลงทุนด้วยการกระจายการลงทุนใน Private Assets หลากหลายประเภททั้งตลาดแรก (Direct Credit) และตลาดรอง (Secondaries Direct Equity) รวมถึงลงทุนใน Global Private Asset ด้วยการกระจายการลงทุนในหลายประเทศอย่างสมดุล โดยเน้นลงทุนในทวีปอเมริกาเหนือที่สัดส่วนราว 60% นอกจากนี้ กองทุนยังมีสภาพคล่องรองรับการไถ่ถอนโดยสามารถซื้อขายได้ทุกเดือน ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญของกองทุนนี้โดยเฉพาะ 

 

ขณะที่การขายคืนหน่วยลงทุนนั้น กองทุนหลักอาจพิจารณาจำกัดการไถ่ถอนหน่วยลงทุน หากมูลค่าการขายคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดในแต่ละไตรมาสมากกว่า 5% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ณ สิ้นไตรมาสก่อนหน้า โดยจะพิจารณารับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนตามสัดสวน 

 

ส่วนคำสั่งขายคืนที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรจะนำไปรวมกับคำสั่งขายคืนของไตรมาสถัดไป โดยจะเป็นไปตามข้อกำหนด และผู้ลงทุนมีสิทธิยกเลิกคำสั่งขายคืนในส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการขายคืนได้ก่อนจะถึงกำหนดวันที่ซื้อขายถัดไป โดยคำสั่งที่ถูกเลื่อนไปจะไม่ได้รับดอกเบี้ย 

 

สำหรับกองทุนหลักจะลงทุนใน Private Assets ทั่วโลก ทั้ง Private Equity และ Private Credit เป็นการบริหารแบบเชิงรุกสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนได้ในแต่ละสภาวะตลาด และจะไม่ลงทุนในธุรกิจที่ขัดต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG consideration) โดยมีการจัดพอร์ตการลงทุนแบบลงทุนเต็มจำนวนและไม่มี capital calls ซึ่งจะกระจายการลงทุนใน Private Assets เน้นลงทุนในหุ้นตลาดพัฒนาแล้ว 

 

อาทิเช่น Monday.com ระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานและสร้างสภาพแวดล้อมที่โปร่งใสในธุรกิจ, AIT Worldwide Logistics, Inc.ผู้ให้บริการชั้นนำด้านซัพพลายเชนแบบ end-to-end ระดับโลก และ Medallia แพลตฟอร์มให้บริการข้อมูลด้าน Customer Experience