รายย่อยซื้อขายหุ้นสูงสุดต่อเนื่อง 11 เดือน

08 ก.พ. 2564 | 09:36 น.

ตลท.เผยเดือนม.ค. 64 หุ้นไทยปิดบวก 1.2% มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันแตะ 100,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์เดือนที่สามติดต่อกัน และรายย่อยซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเดือนที่ 11

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สิ้นเดือนมกราคม 2564 ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,466.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.2% จากเดือนก่อน ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค โดย MSCI ASEAN Index ปรับลดลง 1.9% เมื่อพิจารณารายอุตสาหกรรมเทียบกับสิ้นปี 2563 พบว่าหลายอุตสาหกรรมปรับตัวดีกว่าดัชนีหุ้นไทย อาทิ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม

 

นอกจากนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของตลาดหลักทรัพย์ mai เพิ่มขึ้น 6.26% โดยดัชนีหุ้นในตลาด mai ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาปิดที่ระดับ 356.33 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 18 เดือนด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมใน SET และ mai อยู่ที่ 100,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เดือนที่สามติดต่อกัน และเป็นเดือนที่สองที่สภาพคล่องเกิน 100,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิเป็นเดือนแรกในรอบ 3 เดือน ด้วยมูลค่า 10,700 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ มูลค่า 16,000 ล้านบาท และกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 942 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิด้วยมูลค่า 27,600 ล้านบาท โดยในเดือนนี้นักลงทุนในประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 คิดเป็น 46.61% ของมูลค่าการซื้อขายรวม เพิ่มขึ้นจากจากปีก่อนหน้าที่ 43.66%

 

“ในเดือนมกราคม 2564 ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าจะเผชิญปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ภายในประเทศ ทำให้ภาครัฐได้ออกมาตรการ partial lockdown และจำกัดการเดินทางข้ามจังหวัดในบางพื้นที่ อย่างไรก็ดี ผลตอบรับเชิงบวกจากผลการชนะเลือกตั้งทั้งในสภาล่างและสภาบนของพรรคเดโมแครต (Blue Wave) และเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีขึ้น สอดคล้องกับภาพรวมการส่งออกไทยในเดือนธันวาคม 2563 ขยายตัวถึง 4.71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนและสูงสุดในรอบ 22 เดือน ทำให้ดัชนีหุ้นไทยปิดในแดนบวก”

 

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า มองว่ากรณีการไล่ซื้อหุ้นที่ถูกทำ Short Sales หรือ Short Squeeze เหมือนเหตุการณ์ GameStop ในสหรัฐนั้น ไม่น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยเนื่องจากจำนวนสถานะขาย (Short) หุ้นในไทยส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ ที่ปริมาณการ Short ได้มีไม่มาก เพราะมีการจำกัดไซส์ในแต่ละบริษัท และตลาดอนุพันธ์ (Derivatives) ในไทย มีผลิตภัณฑ์ด้าน Short เฉลี่ยแล้วไม่มาก รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างจำกัด อีกทั้งถูกควบคุมเพดานการถือครองของแต่ละผลิตภัณฑ์ ทั้งในสินค้า single stock futures และสินค้า SET50 Futures ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าTFEX