กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) : เมื่อลาออกจากงานแล้วทำอย่างไรได้บ้าง?

12 ธ.ค. 2563 | 01:09 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2563 | 08:03 น.

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(PVD) กลายเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการเกษียณที่สำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือน  แต่เมื่อเวลาที่เราลาออกจากองค์กรเดิม หลายคนไม่ทราบว่ามีแนวทางในการจัดการเงินจาก PVD นี้ได้อย่างไรบ้าง 

 

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กลายเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการเกษียณที่สำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือนในปัจจุบัน แต่เมื่อเวลาที่เราลาออกจากองค์กรเดิม เพื่อไปเริ่มต้นทำงานกับองค์กรใหม่ หลายคนไม่ทราบว่ามีแนวทางในการจัดการเงินจาก PVD นี้ได้อย่างไรบ้าง แม้แต่ HR ขององค์กรเอง บางครั้งก็ไม่ได้มีข้อแนะนำให้กับคนที่ลาออกได้มีทางเลือกที่เหมาะสมได้ วันนี้ผมจึงมีแนวทางในการจัดการเงิน PVD เมื่อลาออกจากองค์กรแล้ว โดยแนวทางการปฏิบัติจะมีอยู่ 3 วิธี คือ

 

 

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) : เมื่อลาออกจากงานแล้วทำอย่างไรได้บ้าง?

 

 

วิธี 1. เมื่อลาออกแล้ว ก็นำเงิน PVD ออกมาจากกองทุนเลย

 

ข้อดี คือ คุณจะสามารถนำเงินที่สะสมไว้ในกองทุน PVD ทั้งหมดออกมาใช้ได้ทันที โดยอาจจะนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์การเงินอื่นๆ ที่คุณวางแผนเอาไว้ เช่น นำเงินก้อนไปใช้จ่าย เช่น ดาวน์บ้าน รถ เป็นต้น

 

แต่ข้อเสีย คือ เงินที่คุณจะนำออกมาจาก PVD นี้ จะต้องนำมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย เนื่องจากตอนที่คุณสะสมเงิน PVD คุณได้นำเงินก้อนนี้ไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา และข้อเสียที่สำคัญอีกข้อเลย คือ คุณได้นำเงินที่สะสมไว้เพื่อสร้างความมั่นคงระยะยาวในตอนเกษียณออกมาใช้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนที่คุณต้องเกษียณจริงๆ จะไม่มีเงินส่วนนี้อีก หรือพูดง่ายๆ ก็คือ คุณนำเงิน PVD ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นั่นเอง


 

วิธี 2. เมื่อลาออกแล้ว ก็โยกเงิน PVD จากองค์กรเดิมไปยังองค์กรใหม่

 

ข้อดีของวิธีการนี้ คือ คุณจะได้สะสมเงินในกองทุน PVD อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้รับผลตอบแทนสะสมอย่างต่อเนื่องจากการลงทุนตามนโยบายการลงทุนที่เลือกไว้ และการันตีได้ว่า คุณจะมีแหล่งเงินทุนเมื่อยามเกษียณอย่างแน่นอน แต่จะมากขึ้นหรือน้อยลงนั้นก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนที่คุณเลือก และความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้

 

ส่วนข้อเสียคือ หากนโยบายการลงทุนขององค์กรใหม่มีให้เลือกไม่มากหรือไม่ตรงกับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้นั้น ทางเลือกการลงทุน PVD วิธีนี้อาจจะไม่หลากหลายเพียงพอตามที่คุณต้องการ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณนั่นเอง

 

วิธี 3. เมื่อลาออกแล้ว ก็โยกเงิน PVD เข้า RMF (RMF for PVD)

 

ข้อดีของวิธีการนี้จะเหมือนกันกับวิธีการที่ 2 และยังมีข้อดีที่สำคัญเพิ่มเติมคือ คุณจะมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย เรียกได้ว่า ประเภทกองทุนที่คุณสามารถลงทุนได้นั้น ครอบคลุมได้เกือบทุกสินทรัพย์ เช่น ตราสารหนี้ หุ้นอสังหาริมทรัพย์ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ เช่น อเมริกา จีน หุ้นกลุ่มสุขภาพ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

 

แต่ข้อเสียคือ คุณอาจจะมีความยุ่งยากในการจัดการ เพราะต้องไปติดต่อทาง บลจ. ที่มีบริการ RMF for PVD เพื่อเปิดกองทุนดังกล่าวก่อน หลังจากนั้นจึงนำเอกสารการเปิดบัญชีกลับมาแจ้งที่ HR หรือ บลจ. ที่ดูแล PVD ในองค์กรเดิมของคุณ และมีระยะเวลาในการดำเนินการย้ายกองทุนอีกด้วย ที่สำคัญคือ คุณต้องติดตามผลและสับเปลี่ยนการลงทุนด้วยตนเอง และที่สำคัญ อย่าลืมพิจารณาค่าธรรมเนียมการซื้อ ขาย และสับเปลี่ยนกองทุนที่เกิดขึ้น เพราะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละกองทุน

 

อ่านมาถึงตรงนี้ คุณก็คงจะทราบแล้วว่า เมื่อลาออกจากองค์กร จะมีวิธีการจัดการกับ PVD อย่างไรบ้าง ก็ลองเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของแต่ละวิธีการ และเลือกวิธีการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการวางแผนการเงินของตัวเองดูนะครับ

 

 

โดย  :   โกเมศ สุพลภัค นักวางแผนการเงิน CFP®