บมจ.ศิรกร (SK) ปลื้ม กระแสตอบรับการจองซื้อ หุ้นไอพีโอ ดีเกินคาด เตรียมลงสนามเทรดใน ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 8 ตุลาคมนี้ พร้อมนำเงินสยายปีกรับงาน กฟผ.– กฟภ. ขนาด 230 KV - 500 KV ในอนาคต
นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัดเปิดเผยว่า หลังเปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)หรือ ไอพีโอ ของ บริษัท ศิรกร จำกัด(มหาชน) หรือ SK 115.35 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.80 บาท มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 0.50 บาท ระหว่าง 28-30 กันยายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าหุ้น SK ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อหุ้นไอพีโอ เข้ามาเป็นจำนวนมาก ถือว่าประสบความสำเร็จและได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุน
สาเหตุสำคัญมาจาก การกำหนดราคาเสนอขาย IPO เป็นราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 8 เท่า ขณะปัจจุบัน P/E Ratio ของบริษัทเทียบเคียงที่ 11.38 เท่า ประกอบกับบริษัทฯมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยรายได้รวมย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2560 – ปี 2562) เติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี และที่สำคัญยังอิงกับการเติบโตจากนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐบาลด้วย
นายวีรพัฒน์ เพชรคุปต์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ SK ถือว่า เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก จากความโดดเด่นการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง และให้บริการรับเหมาก่อสร้างสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้าและงานรับเหมาก่อสร้างโยธา และด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกอบการ ที่มีโรงงานผลิตและจัดจำหน่ายคอนกรีตอัดแรง 6 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
นายภากร ตั้งนุกูลกิจ กรรมการบริษัทและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศิรกร จำกัด (มหาชน) หรือ SK กล่าวว่า บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการะดมทุนครั้งนี้ เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุน และต่อยอดโอกาสในการขยายธุรกิจ ตามนโยบายการขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้าตามแผนยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาประเทศ
ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำประเทศญี่ปุ่น ในโครงการ Consortium เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับงานสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 KV ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และตั้งเป้าการรับงานสายส่งไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 500 KV ในอีก 2 ปีหน้า พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสในการขยายช่องทางการลงทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพและต่อยอดความแข็งแกร่งทางธุรกิจในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
JR เตรียมขายไอพีโอ 200 ล้านหุ้น