สรุปภาพรวมSETสัปดาห์นี้ปิดบวกเล็กน้อย -สัปดาห์หน้าประเมินแนวรับ 1,310 แนวต้าน 1,335 จุด

29 ส.ค. 2563 | 01:55 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ส.ค. 2563 | 09:14 น.

ดัชนีSETสัปดาห์หน้า ประเมินแนวรับ 1,310จุด แนวต้าน 1,335จุดจับตาปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ

ดัชนีSETสัปดาห์หน้า ประเมินแนวรับ 1,310จุด แนวต้าน 1,335จุด-จับตาปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ

สรุปดัชนีตลาดหลักทรัพย์สัปดาห์นี้ปิดที่1,323.31จุดเพิ่มขึ้น 1.85%มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่ม 8.73% ติดตาม “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มเติม ประเด็นการเมืองในประเทศ สถานการณ์โควิด-19 และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ก.ล.ต. ปลุกเชื่อมั่นนักลงทุน ยืนยัน ตลาดหุ้นไทยแกร่งสู้โควิด

-ตลท.ชี้หุ้นไทยแข็งแกร่ง ฟื้นตัวเร็ว

-ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผันผวน นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด

-หุ้นไทยปิดลบ 1.12 จุด

 

 

สัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ 24-28สิงหาคม 2563 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์(SET)ปิดที่ระดับ 1,323.31จุดเพิ่มขึ้น 1.85%จากสัปดาห์ก่อน  แม้ลดช่วงบวกลงบางส่วนปลายสัปดาห์  ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 53,786.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.73% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.79% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 310.77 จุด      
    หุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ท่ามกลางแรงหนุนจากรายงานข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับแนวทางในการรักษาโรคโควิด-19 ขณะที่ ตลาดคลายความกังวลลงบางส่วนต่อสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงบวกลงในช่วงปลายสัปดาห์ นำโดย หุ้นกลุ่มพลังงาน และวัสดุก่อสร้าง แม้จะมีแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำนานขึ้นก็ตาม     

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (31 ส.ค.- 4 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,310 และ 1,300 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,335 และ 1,350 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มเติม ประเด็นการเมืองในประเทศ สถานการณ์โควิด-19 และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนส.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนส.ค. ของจีน ญี่ปุ่น และยูโรโซน