หลังจากอังคารที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. …. ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เสนอ
ซึ่งเป็นการคุมเข้ม “สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16 ของ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ต้องดำเนิน ซึ่งมีทั้งหมด 9 อาชีพ และหนึ่งในกฎหกระทรวงนั้นคือ
“กรณีที่มีการให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ข้ามประเทศที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป สถาบันการเงินผู้ส่งคำสั่งโอนและสถาบันการเงินผู้รับคำสั่งโอนต้องดำเนินการส่งและรับข้อมูลของผู้โอนและผู้รับโอนพร้อมคำสั่งโอนเงิน โดยต้องจัดให้คำสั่งโอนเงินมีข้อมูลของผู้โอนและผู้รับโอน”
เป็นเพียงหนึ่งในมาตรการประเมิน บริหาร และบรรเทาความเสี่ยงด้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ที่สถาบันการเงินฯ ต้องปฏิบัติเพื่อป้องกันการ “ถูกใช้เป็นเครื่องมือ” ในการฟอกเงินหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ซึ่ง สถาบันการเงินฯต้องไม่ทำธุรกรรมกับลูกค้าที่ทำธุรกรรมเป็นครั้งคราวและรายงานเป็นธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยต่อปปง. โดยคำนึงถึงปัจจัยความเสี่ยงอันเกิดจากลูกค้า พื้นที่หรือประเทศ ผลิตภัณฑ์ บริการ ธุรกรรม หรือช่องทางในการให้บริการ
“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบข้อมูลพบเหตุผลที่ระบุว่า ทำไมสถาบันการเงินฯจะต้องให้ความร่วมมือกับปปง. ในการสกัดกั้นการฟอกเงินและหยุดยั้งการก่อการร้ายที่อาจใช้ช่องทางของสถาบันการเงิน และยกระดับมาตรฐานการติดตามและตรวจสอบการฟอกเงินของประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากล ที่ชื่อว่า “มาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (International Standards on Combating Money Laundering and the Financing of Terrorism and Proliferation)”
ซึ่ง สำนักงานปปง. เคยผ่านที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2559 เรื่อง การเร่งรัดการดำเนินการเพื่อรองรับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2559
โดยระบุเหตุผลไว้น่าสนใจว่า “หากประเทศใดไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล และ ไม่ดําเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องภายในระยะเวลาที่กําหนด ที่ประชุมคณะทํางานเฉพาะกิจเพื่อดําเนิน มาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force) จะประกาศขึ้นบัญชีรายชื่อเป็นประเทศเสี่ยงด้าน การฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และแจ้งให้ประชาคมระหว่างประเทศดําเนินตอบโต้ทางการเงิน อาทิ การตรวจสอบการทําธุรกรรมทางการเงินอย่างเข้มงวด นอกจากนั้น สถาบันการเงิน ต่างประเทศจะต้องประเมินความสัมพันธ์กับสถาบันการเงินไทยอย่างต่อเนื่อง จนอาจนําไปสู่การตัดสินใจ ยกเลิกความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ซึ่งจะทําให้เกิดความเสียหายต่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก”
ในวันนั้นครม.ได้เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการออกกฎหมายและอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ภายในเดือนตุลาคม 2559 ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของกรมสรรพากร ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ของกระทรวงการคลัง และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. .... ของสำนักงาน ปปง.
และครม.สั่งการให้กรมการปกครองประกาศกำหนดมาตรการในการป้องกันและลดความเสี่ยงขององค์กรไม่แสวงหากำไรไม่ให้ถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำความผิดด้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย การกำกับดูแล และมาตรการลงโทษในกรณีฝ่าฝืน
รวมทั้งให้สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์และสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ความร่วมมือแก่สำนักงาน ปปง. พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับขององค์กรให้ครอบคลุมมาตรการด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
ให้สำนักงาน ปปง. ขอความร่วมมือสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์และสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ในการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับขององค์กรให้ครอบคลุมมาตรการด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายต่อไป
ดังนั้น มาตรการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่มีการให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ข้ามประเทศที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป เป็นเพียงแค่ฟันเฟืองหนึ่งที่จะปิดประตูไม่ให้ ประเทศไทยติดแบลคลิสการทำธุรกิจกับประชาคมโลก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กฎใหม่ โอนข้ามประเทศเกิน5หมื่น โดนตรวจสอบ
9อาชีพ โอนเกิน5หมื่นข้ามประเทศ เสี่ยงผิดกฎหมายปปง.