โบรกชี้กลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิต แต่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความต้องการใช้นํ้ามันลดลงตาม บล.กรุงศรีฯปรับลดราคาหุ้นที่เหมาะสม แนะแค่ “ถือ” PTT-PTTEP แต่ยังมองบวกต่อหุ้น TOP บล.เอเซียพลัสฯแนะ “ขาย” PTTEP, PTT แต่ราคาเหมาะสมยังสูงกว่าราคาตลาด
หลังจากการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออก นํ้ามัน (โอเปก) และกลุ่มนอกโอเปก เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2561 ได้บรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตนํ้ามันลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 โดยกลุ่มโอเปกจะลดกำลังการผลิตภายในกลุ่มลง 800,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนรัสเซียและกลุ่มนอกโอเปกจะปรับลดการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ โอเปกตกลงให้สิทธิยกเว้น อิหร่าน เวเนซุเอลา และลิเบีย ไม่ต้องเข้าร่วมการลดกำลังการผลิต เนื่องจากอิหร่านยืนกรานก่อนหน้านี้ว่าไม่ต้องการลดการผลิตนํ้ามันลง มาจากการถูกควํ่าบาตรจากสหรัฐฯ
จากต้นเดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTT ลดลงจาก 51.75 บาทลงมาอยู่ที่ระดับ 49.50 บาท PTTEP ลดลงจาก 140.50 บาท เหลือ 135 บาท PTTGC ลดลงจาก 81 บาท เหลือ 79.25 บาท TOP ลดลงจาก 77.75 บาทเหลือ 73.50 บาท IRPC ลดลงจาก 6.15 บาท เหลือ 6.10 บาท SPRC ราคาลดลงจาก 12.10 บาท เหลือ 11.70 บาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า จากการที่กลุ่มโอเปกและนอกโอเปกตกลงลดกำลังการผลิตนํ้ามันลง เป็นผลบวกต่อราคานํ้ามันดิบโลก แต่ในระยะสั้นราคานํ้ามันยังมีความผันผวนจากความเสี่ยงของภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่แย่ลง โดยเฉพาะผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีน รวมถึงปัญหาการถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (BREXIT) และแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจจีนจากการส่งออก และนำเข้าในเดือนพฤศจิกายนชะลอลง จากการเร่งนำเข้าในช่วงเดือนตุลาคมที่พุ่งขึ้นก่อนที่สงครามการค้าจะรุนแรงขึ้น
บล.กรุงศรีฯ ได้ปรับคาดการณ์ราคานํ้ามันดิบดูไบ จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่า ในปี 2561-2563 ราคานํ้ามันจะเป็น 72, 76, 76 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ ลดลงมาเป็น 68 ดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้ และในปี 2562-2563 คาดว่าราคานํ้ามันจะอยู่ที่ 65 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
การที่กลุ่มโอเปกและนอกโอเปก ลดกำลังการผลิตนํ้ามันดิบลง การที่สหรัฐฯ ควํ่าบาตรอิหร่าน จะส่งผลสนับสนุนราคา
นํ้ามันในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกที่เติบโตชะลอตัวลง ความต้องการใช้นํ้ามันที่ลดลง และความกังวลเกี่ยวกับการที่เชลออยล์ของสหรัฐฯยังผลิตออกมาปริมาณมาก ในเดือนพฤศจิกายนเชลออยล์มีการผลิต 7.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธันวาคม จากกำลังการผลิตทั้งหมด 11.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่งผลลบต่อราคานํ้ามัน
หลังจากที่บล.กรุงศรีฯปรับลดประมาณการราคานํ้ามันดิบแล้ว ยังได้ปรับลดราคาที่เหมาะสมของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับ
ราคานํ้ามันลงด้วย อาทิ PTTEP, IRPC, PTTGC, SPRC, และ PTT โดยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น TOP ที่การเพิ่มกำลังการผลิตจะแล้วเสร็จในปี 2563
บล.เอเซียพลัสฯ ระบุว่า การลดการผลิตนํ้ามันดิบลง อาจ มีนํ้าหนักน้อยกว่าการที่ความต้องการใช้นํ้ามัน ที่ชะลอตัวลงจากผลกระทบของสงครามการค้า สะท้อนจากการคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานสากล(IEA:International Energy Agency) ที่คาดว่าความต้องการ นํ้ามันในปี 2562 จะอยู่ที่ 99.8 ล้านบาร์เรล ตํ่ากว่าปริมาณการผลิตนํ้ามันที่ 100.3 ล้านบาร์เรล แต่หากเทียบกับช่วงวิกฤติซับไพรม์ ช่วงนั้นความต้องการใช้นํ้ามันอยู่ที่ 85.2 ล้านบาร์เรล จึงยังมีโอกาสที่ความต้องการใช้นํ้ามันจะลดลงตํ่ากว่าปัจจุบันได้
ปัจจัยดังกล่าวกดดันราคา นํ้ามันให้อยู่ระดับตํ่ากว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลต่อไป ซึ่งตํ่ากว่าสมมติฐานของบล.
เอเซียพลัสฯ ที่ประเมินไว้ 65 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ในปี 2562 และ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ในปี 2563 และราคานํ้ามันที่ปรับลดลง 5 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล จะทำให้กำไรในปี 2562-2563 ของ PTTEP ลดลง 13.3% และ 15.6% ส่วน PTT จะกำไรลดลง 9.7% และ 7.0%
แนะนำ Switch (เปลี่ยนตัวเล่น) PTTEP (ราคาหุ้นที่เหมาะสม 148 บาท) และ PTT (ราคาที่เหมาะสม 56 บาท) อย่างไรก็ตาม PTTEP อาจจะมีข่าวดี เรื่องการเข้าประมูลแหล่งบงกช และเอราวัณ คาดว่าจะทราบผลวันที่ 18 ธันวาคมนี้
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,426 วันที่ 13-15 ธันวาคม 2561