ธนชาตรอตลาดรถยนต์ฟื้น คงเป้าสินเชื่อที่1 แสนล้าน

05 มี.ค. 2559 | 13:00 น.
แบงก์ธนชาต ประเมินตลาดรถยนต์เริ่มทรงตัวที่ 7.5-7.6 แสนคัน ติดลบน้อยลงเหลือ 10% จากปีก่อน 15% ชี้รอเวลาฟื้นตัวอีกไม่ช้า ลั่นปีนี้สินเชื่อใหม่แตะ 1 แสนล้านบาท แม้พอร์ตจะนิ่งที่ 3.5 แสนล้านบาท เหตุยอดชำระคืนสูงกว่าปล่อยใหม่ ล่าสุดจับมือเชฟโรเลต เจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดชูอนุมัติเร็ว

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (บมจ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ในปีนี้ ธนาคารประเมินว่าเข้ามาใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว ขณะที่สัญญาณเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวดีขึ้น ดังนั้น ปีนี้ยอดขายรถยนต์จะยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 7.5-7.6 แสนคัน เป็นอัตราที่ติดลบน้อยลงกว่าปีก่อนที่มีอัตราติดลบประมาณ 15% คาดว่าปีนี้จะติดลบอยู่ที่ 10% ขณะที่รถราคามือ 2 แนวโน้มกลับมาปรับตัวดีขึ้นราคาเริ่มนิ่งและทรงตัวมากขึ้นกว่า 1-2 ปีที่ผ่านมาสะท้อนภาพรวมของตลาดรถยนต์ที่เริ่มกลับมาทรงตัวอีกครั้ง

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อรถยนต์ปล่อยใหม่อยู่ที่ 8% ใกล้เคียงปีก่อนที่สามารถปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นล้านบาทถึง 1 แสนล้านบาทหรือเติบโต 8% จากพอร์ตสินเชื่อคงค้างปัจจุบันอยู่ที่ 3.5 แสนล้านบาท อย่างไรก็ดี จะเห็นพอร์ตสินเชื่อคงค้างภายในสิ้นปี 2559 จะยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับเดิม เพราะมียอดชำระคืนหนี้ของลูกค้าเก่าจำนวนมาก โดยที่ธนาคารยังคงสัดส่วนพอร์ตรถยนต์ลักษณะเดิม คือ รถยนต์ใหม่ที่ 70% และรถยนต์เก่า 30% แม้ว่าทำสินเชื่อรถยนต์เก่าจะให้อัตราผลตอบแทน (Yield) ที่สูงกว่าก็ตาม โดยเฉลี่ยรถยนต์ใหม่อยู่ที่ 6% รถยนต์เก่า 9%

"ตลาดรถเรามองว่าถึงจุดต่ำสุดแล้ว เพียงแต่ต้องรอเวลาที่ตลาดจะฟื้นกลับมาเดิม แต่เราคงไม่เห็นยอดขายแบบ 1.1-1.2 ล้านคัน เพราะอันนั้นเป็นการดึงดีมานด์เทียมมาใช้ก่อน ซึ่งปีนี้เราคาดว่าการติดลบคงไม่สูงเหมือนปีก่อนแล้ว ตลาดกำลังทรงตัวเพื่อรอวันที่จะขยับตัวขึ้น"

ปัจจุบันธนาคารได้ร่วมมือกับบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นข้อตกลงภายใต้สัญญา 3 ปีในการให้บริการด้านการเงินทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรายย่อยและสินเชื่อเพื่อผู้จัดจำหน่าย ภายใต้สาขาธนาคารกว่า 600 แห่ง ช่องทางผู้จัดจำหน่ายของเชฟโรเลตกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งธนาคารจะเน้นลูกค้าต่างจังหวัดที่มีความสามารถในการผ่อนชำระ อาทิ อ้อยและมันสำปะหลัง แม้บางกลุ่มอาจรับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรและภัยแล้ง ที่สำคัญลูกค้ารายย่อยสามารถรู้ผลอนุมัติที่เร็วภายใน 2วัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,136 วันที่ 3 - 5 มีนาคม พ.ศ. 2559