เป้าEPGรายได้หมื่นล. ปั้นTJMธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ "ทำกําไร รุกส่งออก"

01 ก.ย. 2561 | 12:41 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

เน้นเพิ่มสัดส่วนตลาดส่งออกกระจายความเสี่ยงในประเทศ ตั้งเป้าปีนี้เติบโต 10% ยอดขายแตะ 1 หมื่นล้านบาท เร่งปรับปรุง TJM บริษัทลูกในออสเตรเลียหวังสร้างผลกำไรได้ในปี 2562-2563 เผยหากธุรกิจกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ Aeroklas มียอดขายเติบโตถึง 6-8 พันล้านบาท มีความเป็นไปได้ที่จะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

 
บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูป มี 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex ส่งออก 70%, ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ส่งออก 70%, และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP ขายในประเทศ 90%  บริษัทตั้งเป้าว่าผลประกอบการในปีนี้ (เมษายน 2561-มีนาคม 2562) จะมีรายได้ 10,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 9,607 ล้านบาท mp17-3397-a

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าบริษัทตั้งเป้าการเติบโตปีละมากกว่า 10% โดยในไตรมาสแรกของปีนี้มียอดขาย 2,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% กำไรสุทธิ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4%

“ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท ปัจจุบันธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas สร้างรายได้กว่า 4,400 ล้านบาทในปีที่แล้ว เป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้รวม เราคาดหวังการเติบโตปีละ 20-23% ส่วนธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น Aeroflex ตั้งเป้าเติบโต 10-12% และ EPP เติบโต 8-10%”

นายเฉลียวกล่าวว่า หลังจากที่ซื้อกิจการ TJMผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อในออสเตรเลียมาย่างเข้าปีที่ 4 แล้ว โดยมียอดขายปีละประมาณ 1,200 ล้านบาท ขาดทุนปีละ 100 ล้านบาท แต่แนวโน้มจะดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจุบันมีช่องทางการจำหน่าย 64 สาขาในประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นสาขาของบริษัทที่ดำเนินการเอง 3 สาขา และมีแผนขยายสาขาเพิ่มในอนาคตเป็น 100 สาขา

[caption id="attachment_311022" align="aligncenter" width="234"] เฉลียว วิทูรปกรณ์ เฉลียว วิทูรปกรณ์[/caption]

“TJM ดำเนินธุรกิจมากว่า 40 ปี เคยเป็นอันดับ1 เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมายาวนาน แต่ถูกแซงโดย ARB ซึ่งเป็นอันดับ 2 ปัจจุบัน ARB มียอดขายถึง 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ TJM มียอดขายประมาณ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เราจะปรับปรุงให้ TJM กลับมาเป็นอันดับ 1 อีกครั้ง”

 

ในเดือนมีนาคม 2561 บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ Flexiglass ซึ่งประกอบกิจการร้านจำหน่ายสินค้าตกแต่งรถกระบะ และ SUV ประเภทขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ในประเทศออสเตรเลีย โดยมีช่องทางจำหน่ายมากกว่า 100 แห่ง และมีสาขาของตนเองรวม 5 แห่ง การเข้าลงทุนใน TJM และ Flexiglass จะช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับ Aeroklasถือเป็นการสร้างประโยชน์จากแรงผนึก และเปิดโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญ

090861-1927-9-335x503

“ปัจจุบันธุรกิจในกลุ่ม Aeroklas มีรายได้กว่า 4,000 ล้านบาท หากธุรกิจเติบโตมากขึ้นมียอดขายไปถึง 6,000-8,000 ล้านบาท ก็เป็นไปได้ที่จะ Spin off นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือหากบริษัทลูกอย่าง TJM พลิกกลับมาทำกำไรและยอดขายเติบโตขึ้น ก็มีโอกาสที่จะระดมทุนในตลาดหุ้นออสเตรเลียได้ ซึ่งเราคาดว่า TJM จะมีกำไรในปี 2562-2563”

 

นายเฉลียว กล่าวถึงมุมมองต่อการร่วมลงทุนและซื้อกิจการว่า บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท สำหรับการร่วมลงทุนและซื้อกิจการ โดยจะให้ความสำคัญกับธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ มีความพร้อมทั้งบุคลากรและระบบ สามารถเข้าไปบริหารจัดการได้ทันที นอกจากนี้ก็ยังมองถึงธุรกิจที่จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายหรือมีฐานลูกค้าอยู่ ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์สนับสนุนยอดขายให้เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้มองข้ามธุรกิจที่มีแนวโน้มดี หรือมีผลตอบแทนการลงทุนที่ดี แต่สัดส่วนการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนจะใช้งบประมาณไม่เกิน 5-10% ของกำไรสุทธิเข้าไปลงทุน ปัจจุบันกระแสเงินสดของบริษัทค่อนข้างดี มีกำไรสะสม 3,500 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนตํ่า 0.29% หากมีโอกาสทางธุรกิจที่ดี เราก็สามารถระดมทุนมาได้

 

“แนวโน้มธุรกิจของ EPG ในช่วงต่อจากนี้ คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยจะมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนาคุณภาพของสินค้า เพื่อการแข่งขันในตลาดโลก และเร่งขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศทุกช่องทาง” นายเฉลียว กล่าว

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,397 วันที่ 2-5 กันยายน 2561

e-book-1-503x62-7