BOFFICE มั่นใจสินทรัพย์ในกองมีโอกาสปรับขึ้นค่าเช่า และการเช่าพื้นที่เพิ่ม ทำให้ผลตอบแทนดีและมั่นคงในระยะยาว
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ หรือ Bhiraj Office REIT (BOFFICE) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรกเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนล้นหลาม โดยราคาเปิดตลาดที่ 11 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาจองที่ 10 บาท และราคาขึ้นสูงสุดที่ 11.90 บาท ตํ่าสุดที่ 11 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 11.70 บาท หรือเพิ่มขึ้น 17% มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 807 ล้านบาท
[caption id="attachment_253354" align="aligncenter" width="503"]
สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ และ อรรถกร เนตร์เนรมิตรดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภิรัช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ร่วมเปิดซื้อขายวันแรก ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561[/caption]
นายอรรถกร เนตร์เนรมิตรดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภิรัช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า BOFFICE หลังเสนอขาย IPO หน่วยทรัสต์ในราคา 10 บาทต่อหน่วย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของโครงการอาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ที่ BOFFICE เข้าลงทุน จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่นักลงทุน
ทั้งนี้ BOFFICE เข้าลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาวในโครงการอาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ประกอบด้วย พื้นที่เช่าส่วนสำนักงานให้เช่า พื้นที่จอดรถ, พื้นที่ส่วนกลางของสำนักงานและพื้นที่สำหรับวางงานระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานของโครงการ รวมพื้นที่ทั้งหมด 94,853 ตารางเมตร เป็นระยะเวลาประมาณ 26 ปี 9 เดือน นับจากวันที่กองทรัสต์เข้าลงทุนวันที่ 18 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2587
นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ หัวหน้าสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ทรัพย์สินที่ BOFFICE เข้าลงทุนนั้น เป็นโครงการคุณภาพที่คาดว่าจะสร้างรายได้อย่างมั่นคงและมีศักยภาพการเติบโตในระดับสูง
โดยเป็นอาคารสำนักงานเกรด A ที่มีอัตราการเติบโตที่ดีจากกลุ่มผู้เช่าที่มีคุณภาพและความหลากหลาย ตั้งแต่บริษัทขนาดเล็กจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติและกระจายตัวในหลายอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่ม E-Commerce กลุ่มเภสัชกรรม เป็นต้น ทำให้โครงการดังกล่าว มีรายได้ที่มั่นคงและลดความเสี่ยงการพึ่งพิงรายได้จากผู้เช่ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ตลอดจนโอกาสการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าในอนาคตจากทำเลที่ดี จึงมั่นใจว่าผู้ซื้อหน่วยทรัสต์ของ BOFFICE จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีและมีความสมํ่าเสมอในระยะยาว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,334 วันที่ 25 - 27 มกราคม พ.ศ. 2561