'แอล เอช ฟันด์'มองหุ้นปีหน้า1,800 จุด

25 ก.ย. 2560 | 04:25 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

แอล เอช ฟันด์ ประเมินหุ้นไทยไปต่อ พื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง เม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐ ภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตดี คาดสิ้นปีหน้าดัชนี 1,800 จุด สบช่องหุ้นไทยร้อนแรงเปิดตัวกองทุน ‘แอล เอช ท็อปพิค’ ลงทุนหุ้นพื้นฐานดี 10 ตัว

[caption id="attachment_212126" align="aligncenter" width="330"] นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์[/caption]

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ แอล เอช ฟันด์ เปิดเผยว่า ประเมินตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจที่จะเข้าลงทุน หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นทะลุ 1,650 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี โดยมีปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเชื่อมั่นในภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลังของปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การพัฒนาโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ตลอดจนเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ รวมถึงยังได้รับผลดีจากภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้นในปีนี้

ทั้งนี้ แอล เอช ฟันด์ ประเมินแนวโน้มดัชนีในช่วงสิ้นปี 2561 มีโอกาสปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,800 จุด แม้มีความกังวลจากปัจจัยลบ เช่น เหตุการณ์ในเกาหลีเหนือ การก่อการร้ายในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับในปี 2561-2563 จะมีเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปีนี้ยังคงเติบโตได้ดีจากปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรัฐบาลได้เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ชาวต่างชาติเพื่อกระตุ้นการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

กรรมการผู้จัดการ แอล เอช ฟันด์ กล่าวว่า เตรียมเปิดตัวกองทุนเปิด แอล เอช ท็อปพิค หรือ LH Top Pick Fund (LHTOPPICK) ที่เด่นทั้งหุ้นและผลตอบแทน โดยกองทุนนี้จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของการลงทุนโดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว LHTOPPICK จะเสนอขายหน่วยลงทุนเป็นครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน - 4 ตุลาคม 2560 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ที่ต้องการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผ่านการลงทุนในกองทุนรวม

สำหรับกองทุนเปิด LHTOPPICK นั้นมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนในประเทศไทย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีจุดเด่นที่จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกไม่เกิน 10 หลักทรัพย์ ซึ่งมีเกณฑ์การคัดเลือก ประกอบด้วย 1.เป็นตราสารทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานดีหรือมีแนวโน้มการเติบโตสูงในอนาคตและ/หรือ 2.พิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทในปัจจุบันและ/หรือ 3.แนวโน้มผลประกอบการในอนาคต โดยจะพิจารณาจากรายได้ที่อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือผลประกอบการหรือผลกำไรที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนอาจพิจารณาปรับหลักทรัพย์ที่ลงทุน และ/หรือจำนวนหลักทรัพย์ที่ลงทุนมากกว่า 10 หลักทรัพย์ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและ/หรือประกาศที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด รวมถึงอาจลงทุนหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุนโดยจะพิจารณาจากสภาวะตลาดในช่วงนั้นๆ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

“เราเชื่อว่า LHTOPPICK จะเป็นกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เนื่องจากเรามีผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญการลงทุนทำหน้าที่พิจารณาเลือกหุ้นรายตัวที่มีพื้นฐานดีและแนวโน้มเติบโตสูง เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่อยากลงทุนในตลาดหุ้นไทยผ่านกองทุนรวม” นายมนรัฐ กล่าว