อินเตอร์ไฮด์ สร้างกำไรจากต้นนํ้าถึงปลายนํ้า ผลงานติดอันดับโลก เวียดนามชวนลงทุน โรงงานใหม่เริ่มผลิตปีหน้า รวม 4 เฟสเพิ่มกำลังการผลิต 4 เท่า ผลงานเข้าตาสถาบันไทย-ต่างประเทศ จ่ายปันผลงาม
นายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทมีพัฒนาการที่สำคัญ คือการมีกำไรและรายได้จากธุรกิจต้นนํ้าถึงปลายนํ้า โดยเพิ่มธุรกิจรับจ้างฟอกหนังที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิน) สูง ประมาณ 25-30% ส่งผลให้การดำเนินงานเติบโตมากและไม่ผันผวนตามราคาวัตถุดิบที่ทำธุรกิจฟอกหนังเพียงอย่างเดียว รวมถึงมีรายได้จากการให้เช่าโรงงานฟอกย้อมด้วย
[caption id="attachment_204703" align="aligncenter" width="328"]
วศิน ดำรงสกุลวงษ์[/caption]
“ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ เรามีกำไรสุทธิ 133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเดียวกันปีก่อน 102 ล้านบาท กำไรส่วนที่เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาทมาจากค่าบริการในการรับจ้างผลิต ปัจจุบันมีสัดส่วน 50% ช่วยกระจายความเสี่ยง เราไม่ต้องลงทุนเยอะในการซื้อหนังมาเก็บไว้และราคาผันผวน กว่าจะปรับราคาขายตามต้นทุนได้ต้องรอเวลา 6 เดือน การรับจ้างผลิตทำให้เราใช้กำลังการผลิตเต็มที่ 100% จากที่เคยใช้เพียง 70% และที่สำคัญสามารถรับเงินค่าจ้างผลิตได้ทุกสัปดาห์ ไม่ต้องรอนานเหมือนแต่ก่อน ทำให้มีเงินมาหมุนไม่ค่อยใช้เงินกู้ โครงสร้างทางการเงินแข็งแรงขึ้น” นายวศินกล่าว
นอกจากนั้น ในปีนี้ อินเตอร์ไฮด์ยังมีข่าวดี เรื่องการได้รับเลือกติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก เข้าชิงรางวัล เทรนเนอร์แห่งปี(TRANER OF THE YEAR) จากที่ผ่านมาไม่เคยติดอันดับโลก โดยนิตยสาร Leather Management คัดเลือกคุณสมบัติจากการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมของธุรกิจฟอกหนัง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย การดูแลคนงานพนักงานดีหรือไม่ รวมถึงการแนะแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาธุรกิจฟอกหนังในระยะยาว
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น หลังจากทางการจีนสั่งปิดโรงฟอกหนังขนาดกลางและเล็กเกือบ 90% ที่ทิ้งนํ้าสกปรกลงคลอง ปัจจุบันเหลือผู้ผลิตที่เป็นโรงใหญ่เพียง 20-30 แห่ง ทำให้โรงงานที่ไทยและเวียดนามเป็นฮับในภูมิภาคนี้ ลูกค้าที่เคยใช้โรงงานที่จีนหันมาใช้บริการของบริษัทมากขึ้น เช่น ลูกค้าอเมริกาใต้ เม็กซิโก รวมถึงงานรับจ้างผลิตที่จะต้องหาเพิ่มอีก 2 เจ้า แถวยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งสอดรับกับโรงงานใหม่ 4 เฟส ที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิต 4 เท่าตัวจากปัจจุบันผลิตได้ 1 ล้านตัว/ปี คาดเฟสแรกจะเริ่มผลิตได้ในเดือนมกราคมปีหน้า ส่วนเฟสสุดท้ายจะจบลงในไตรมาส 2 ปี 2562
นายวศิน กล่าวว่า ผลงานที่ผ่านมา ในการเป็นมืออาชีพของโรงฟอกย้อมหนัง ทั้งการเตรียมงานส่งมอบสินค้าตรงเวลา ส่งผลให้มีลูกค้ามาชักชวนให้เปิดโรงงานในต่างประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างการคุยกับผู้ผลิตหนังอันดับ 1 ของเวียดนามในการผลิตรองเท้า ADIDAS NIKE เพื่อ ป้อนให้พันธมิตรรายนี้ คาดว่าจะมีข้อสรุปในปีนี้
“ผลงานและธุรกิจที่ดีขึ้น มีนักลงทุนสถาบันไทยและต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นเราเพิ่มขึ้น เช่น เกาหลี สิงคโปร์ และไทย รวมถึงการจ่ายเงินปันผลที่ดี ระหว่างกาลปีนี้ จ่ายหุ้นละ 0.18 บาท เทียบกับปีก่อนจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.34 บาทแบ่งเป็นระหว่างกาล 0.19 บาท และสิ้นปีอีก 0.15 บาท” นายวศินกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,294 วันที่ 7 - 9 กันยายน พ.ศ. 2560