MAX ทุ่ม 880 ล.ลุยซื้อหุ้นน้ำมันปาล์ม พร้อมลงทุนโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สเพิ่ม

07 มิ.ย. 2560 | 04:32 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มิ.ย. 2560 | 11:32 น.
บอร์ด "แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น" ไฟเขียวเข้าซื้อหุ้น HNC ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม สัดส่วน 60% พร้อมใส่่เงินลงทุนเพิ่มโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส 4 เมกะวัตต์
นายอิทธิชัย อรุณศรีแสงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) หรือ MAX เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เอ็นเอชซี เพาเวอร์ จากัด (HNC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตและจาหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ามันในเมล็ดปาล์ม อาหารสัตว์ ปุ๋ยอินทรีย์ และพลังงานทดแทนจำนวน 1,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วน 60% ของจานวนหุ้นที่ชาระแล้ว มูลค่าการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 280 ล้านบาท โดยซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม คือ บริษัท เคอาร์ซี แอดวานซ์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งไม่เป็นบุคคที่เกี่ยวโยงกับบริษัท

นอกจากนี้อนุมัติงบประมาณลงทุนใน HNC สำหรับการก่อสร้างและพัฒนาโรงงาน CPOA (สัดส่วน 60%) คิดเป็น 360 ล้านบาท เงินลงทุนเพิ่มเติมสำหรับการก่อสร้างและพัฒนาโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส 4 MW (สัดส่วน 60%) อีก 200 และชำระหนี้คืนเงินกู้ยืมกรรมการ 40 ล้านบาท รวมมูลค่าการลงทุน 880 ล้านบาท

max นายอิทธิชัย กล่าวว่า บริษัทจะเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญ HNC ภายในเดือนมิถุนายน 2560 ภายหลังการเข้าซื้อหุ้นบริษัทจะพิจารณาการดาเนินการก่อสร้างโรงงาน CPOA ขนาดกาลังการผลิตที่ 60/75 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมงและ ขนาดกาลังไฟฟ้า 5 MW หากทางคณะกรรมการพิจารณาแล้วมีความเป็นไปได้ ทางบริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายในปลายปี 2560 และจะสร้างเสร็จและเปิดดาเนินการได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดจานวน 280 ล้านบาท มาจากเงินเพิ่มทุนที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนเงินลงทุนทั้งหมดของโครงการเป็นการคำนวณโดยตั้งสมมุติฐานว่าไม่ได้หาแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินเลย ซึ่งในความเป็นจริงทางบริษัทคงต้องหาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งที่ปรึกษาการเงินได้ทาสัดส่วนการขอสินเชื่อที่ 60% ซึ่งจะทาให้บริษัทต้องการเงินทุนเพิ่มอีก 224 ล้านบาท ทำให้ต้องใช้เงินทุนทั้งหมดในโครงการเท่ากับ 504 ล้านบาท ซึ่งเงินทั้งหมดจะมาจากแหล่งเงินทุนของบริษัท และแหล่งเงินกู้ในอนาคตของบริษัท

อย่างไรก็ตามประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัทจาการเข้าทำรายการดังกล่าวนั้นจะเพิ่มรายได้และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัท ทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นในระยะยาว ซึ่งบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการดำเนินงานได้เร็วขึ้นกว่าที่บริษัทจะไปเริ่มธุรกิจตั้งแต่ต้น อีกทั้งมองว่าการลงทุนในโครงการดังกล่าวเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการอยู่ที่ 16.60%

ปัจจุบัน HNC ดำเนินธุรกิจผลิตน้ามันเมล็ดในปาล์มดิบ และจัดจาหน่ายน้ามันเมล็ดในปาล์มดิบ น้ามันปาล์มดิบ กากเมล็ดในปาล์ม (อาหารสัตว์) ปุ๋ยอินทรีย์ และพลังงานทดแทน โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งหมดของโครงการประมาณ 880 ล้านบาท