‘อิเล็กทรอนิกส์’เฮ!ปี60รุ่ง ผู้บริโภคขานรับ SSD มากขึ้น จน Memory Chip ขาดตลาด

12 พ.ย. 2559 | 05:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วงการอิเล็กทรอนิกส์จับตาผู้ผลิต Memory Chip ที่ประกอบใน Solid State Drive ขาดตลาด หลัง SSD ผู้บริโภคขานรับมากขึ้น ตั้งข้อสังเกตผู้ผลิตรายใหญ่ทั้งซัมซุง อินเทล อาจไม่ขยายกำลังผลิตเพื่อทำราคา หรือถูกใช้งานมากขึ้นจนขยายไม่ทัน ส่วนภาพรวมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปี2560 มีสัญญาณบวกจาก 2 ปัจจัย “ SMT” ฟันธงนับจากปี60ไปกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวดีขึ้น

สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้เทคโนโลยีของหน่วยเก็บข้อมูลหรือหน่วยเก็บความจำที่เรียกว่าฮาร์ดดีสก์ไดร์ฟ(Hard Disk Drive:HDD) มีลักษณะเป็นจานแม่เหล็กหัวอ่าน และเทคโนโลยีถูกพัฒนามาเป็นSolid State Drive หรือ SSD ที่มีความทันสมัย ประหยัดไฟ คล่องตัวและสะดวกในการใช้งานมากกว่า ทำให้ตลาดเริ่มขานรับมากขึ้น จนล่าสุดราคาเริ่มเอื้อต่อตลาดและสามารถเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด HDDในตลาดโลกได้แล้วในสัดส่วน 30%

ล่าสุดแหล่งข่าวจากวงการอิเล็กทรอนิกส์เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จากการตอบรับของผู้บริโภค SSDทำให้ราคาในตลาดถูกลง ในขณะที่ความต้องการใช้ในตลาดเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดปัญหา Memory Chipหรือตัวเก็บข้อมูลในSSD ขาดตลาด โดยวงการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ตั้งข้อสังเกตว่ากรณีนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากที่ผู้ผลิตรายใหญ่อย่างซัมซุง จากเกาหลี และอินเทล(Intel) จากอเมริกา ไม่ขยายกำลังการผลิตเพราะต้องการทำราคาสินค้าหรือไม่ หรือเพราะมีการใช้งานมากขึ้นจนทำให้การขยายกำลังผลิตไม่ทันต่อความต้องการใช้ ก็เป็นไปได้ทุกทาง

ทั้งนี้ปัจจุบันผู้ผลิต SSD ในตลาดโลก 4 รายใหญ่ประกอบด้วย ซัมซุง อินเทล เวสเทิร์น ดิจิตอลหรือWD และโตชิบา โดยปัจจุบันSSD ในตลาดโลกมีกำลังผลิตราว 30 ล้านยูนิตต่อไตรมาส หรือคิดเป็น30%ของตลาด HDD ที่มีกำลังผลิตราว 100 ล้านยูนิตต่อไตรมาส

สำหรับภาพรวมของตลาดอิเล็กทรอนิกส์ปี 2560 นั้นยังต้องดูภาพรวมของเศรษฐกิจอเมริกาหลังได้ประธานาธิบดีคนใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ถ้าภาพรวมเศรษฐกิจออกมาดี รวมถึงตลาดเงินตลาดทุนของโลกไปในทิศทางที่ดีขึ้นก็จะเอื้อต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ด้วย เพราะจะเกิดการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น

“เวลานี้เท่าที่ดูยังไม่มีผลิตภัณฑ์ใดโดดเด่นในตลาดปี2560 แต่จะมีข่าวลือว่าปีหน้าไอโฟน8จะเปลี่ยนโฉม โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆที่ทันสมัยขึ้น เนื่องจากปีหน้าช่วงเดือนกันยายนไอโฟนจะครบ 10 ปีก็จะปรับโฉมเป็นเจนัลเรชั่น3 ออกมาสู่ตลาด จะสร้างความคึกคักให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่จะไปซัพพอตตลาดนี้ได้”

ด้านนายพีระพล วิไลวงศ์เสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยถึง ภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ว่า ยังไม่เห็นว่ามีปัจจัยเสี่ยงอะไรเกิดขึ้น และมองว่าปี2560 เป็นต้นไปตลาดในอุตสาหกรรมดังกล่าวจะดีขึ้น เพราะเวลานี้โทรคมนาคมและอินเตอร์เนต แทรกตัวเข้าไปทุกที่ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าคอนซูมเมอร์ โพรดักส์ ทั้งยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ประจำวัน ล้วนใช้อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น มีระบบไวไฟเชื่อมต่อถึงกัน ทำให้ชีวิตประจำวันผูกติดกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าขณะนี้ Memory Chipหรือตัวเก็บข้อมูลในSSD ขาดตลาด ไม่น่าจะเกิดจากที่ผู้ผลิตไม่ขยายกำลังการผลิตเพราะต้องการทำราคาสินค้า เพราะลูกค้ามีคำสั่งซื้อ มีระยะเวลาส่งมอบแต่ละรายก็มีแผนธุรกิจ และในแง่ผู้ผลิตอย่างซัมซุง และอินเทลก็อยากจะขายสินค้า ก็ต้องอยากเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า ถ้าไม่ขยายกำลังผลิตเพราะต้องการทำราคาจะยิ่งทำให้สูญเสียลูกค้าได้ และผิดจรรยาบรรณต่อลูกค้าได้ ซึ่งบริษัทใหญ่ๆขนาดนี้คงไม่ยอมเปลืองตัวแน่นอน

ด้านดร. สัมพันธ์ ศิลปะนาฎ ประธานสมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ กล่าวถึงภาพรวมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปี 2560 ว่าน่าจะขยายตัวดีกว่าปี2559 โดยมีปัจจัยบวกมาจาก2 เรื่องหลักคือ 1.มีสัญญาณของการโยกย้ายปริมาณการผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านมาไทยของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ 2.หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาก็จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจอเมริกา แนวโน้มจะโยงมาถึงไทยที่มีการค้ากับอเมริกาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,208 วันที่ 10 - 12 พฤศจิกายน 2559