"ฝายบ้านไอร์แตแตฯ" จ.นราธิวาส "โครงการพระราชดำริฯ" ที่ได้มากกว่าน้ำ

10 ส.ค. 2565 | 11:32 น.

ทำความรู้จัก "ฝายบ้านไอร์แตแตฯ "ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส "โครงการพระราชดำริฯ" ที่ได้มากกว่าน้ำ

“ความเป็นอยู่แต่ก่อนหมู่ 10 กับ หมู่ 5 จะใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ ตั้งแต่มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกิดขึ้นในพื้นที่ ความรักความสามัคคีของคนในชุมชนก็เกิดขึ้นมาก มีความปรองดองกัน”

 

นายมะรอนิง แยนา ราษฎรหมู่ที่ 10 ตำบลกำปงบารู อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส กล่าวกับคณะที่ติดตามพลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เพิ่มเกษร รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ ระหว่างลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินงาน และการใช้ประโยชน์ของโครงการปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำฝายบ้านไอร์แตแตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส 

 

สำหรับชุมชนกำปงบารูนั้น ในอดีตมีสภาพเป็นป่าไม่มีผู้คนอาศัย ต่อมาได้มีราษฎรเข้าครอบครองพื้นที่ เพื่อทำการเกษตรและอยู่อาศัย เป็นพื้นที่อยู่ใกล้ทะเลและป่าชายเลน ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหากินกับป่าชายเลน และทำประมงชายฝั่ง เมื่อประชากรเพิ่มมากขึ้นจึงได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านโดยตั้งชื่อว่า “กำปงบารู” แปลว่าหมู่บ้านใหม่ ขณะเดียวกันอาชีพทำกินได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการทำสวนยางพารา ทุเรียน เงาะ ทำให้พื้นที่ป่าลดลงและเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำตามมา

"ฝายบ้านไอร์แตแตฯ" จ.นราธิวาส "โครงการพระราชดำริฯ" ที่ได้มากกว่าน้ำ

“ดีใจมาก ขอขอบพระคุณในหลวงรัชกาลที่10 ที่พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ชาวบ้านได้รับประโยชน์หลังจากที่เดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และใช้รดต้นไม้ เวลาจัดงานที่มัสยิดต้องใช้รถดับเพลิงของ อบต. ขนน้ำมาช่วยเหลือ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเพราะมีน้ำประปาหมู่บ้าน พวกเราจะช่วยกันดูแลรักษาแหล่งน้ำให้ยั่งยืนด้วยการมีจิตอาสา และอาสาสมัครช่วยกันบริหารและดูแลให้โครงการฯ ได้ใช้งานอย่างยาวนาน” นายมะรอนิง แยนา กล่าว

 

โครงการปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำฝายบ้านไอร์แตแตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 ตามที่นายสะมะแอ กูโน ราษฎรหมู่ที่ 9 ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส

 

และคณะขอพระราชทานโครงการปรับปรุงฝายทดน้ำพร้อมระบบประปาภูเขา เพื่อช่วยเหลือราษฎร หมู่ที่ 2,3,4,6 และ 10 ตำบลศรีสาคร ซึ่งประสบความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน รวมทั้งขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และทำการเกษตรในฤดูแล้ง

"ฝายบ้านไอร์แตแตฯ" จ.นราธิวาส "โครงการพระราชดำริฯ" ที่ได้มากกว่าน้ำ

ในปี 2564 กปร. อนุมัติงบประมาณ แก่กรมชลประทาน เพื่อดำเนินกิจกรรมปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำ ความยาวรวม 13,989 เมตร และอาคารประกอบ ซ่อมแซมฝายทดน้ำเดิม ขุดลอกตะกอนทราย ปริมาตร 1,460 ลูกบาศก์เมตร และบูรณะทางลำเลียง ระยะทาง 1,000 เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565  

 

ยังสามารถส่งน้ำสนับสนุนด้านการอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎร หมู่ที่ 2,3,4,และ6 แล้วยังสามารถส่งน้ำบางส่วนให้แก่ราษฎรราษฎรบ้านไอร์แตแต หมู่ที่ 5  และบ้านกำปงบารู หมู่ที่ 10 ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส จำนวนครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 563 ครัวเรือน ราษฎร 2,076 คน

"ฝายบ้านไอร์แตแตฯ" จ.นราธิวาส "โครงการพระราชดำริฯ" ที่ได้มากกว่าน้ำ

รวมทั้งส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตร จำนวนประมาณ 1,610 ไร่ ได้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี ทั้งนี้กรมชลประทาน มีแผนปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำฝายบ้านไอร์แตแตเพิ่มเติม เพื่อขยายพื้นที่การส่งน้ำให้แก่ราษฎรเพิ่มเติมอีกจำนวน 30 ครัวเรือน โดยเสนอเข้าแผนงบปกติกรมชลประทาน ปีงบประมาณ 2565  (เพิ่มเติม) 

 

จากการติดตามความคืบหน้าในการใช้ประโยชน์จากฝายฯ ขององคมนตรีและคณะ พบว่า ราษฎรมีความพึงพอใจต่อโครงการฯ มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำร่วมบริหารจัดการน้ำเพื่อใช้ประโยชน์อย่างครบวงจร ทั้งอุปโภค  บริโภค ด้วยการจัดทำประปาชุมชน ส่งน้ำไปยังครัวเรือนอย่างทั่วถึง

"ฝายบ้านไอร์แตแตฯ" จ.นราธิวาส "โครงการพระราชดำริฯ" ที่ได้มากกว่าน้ำ

ส่วนในพื้นที่การเกษตรมีการจัดวางระบบน้ำส่งเข้าพื้นที่อย่างทั่วถึง และกำหนดเวรผลัดเปลี่ยนช่วงเวลาการปล่อยน้ำเข้าสู่แปลงเพาะปลูกอย่างเป็นธรรม ทุกคนได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียม ส่งผลให้สมาชิกชุมชนมีความปรองดองในการใช้ชีวิตเป็นอย่างดี

"ฝายบ้านไอร์แตแตฯ" จ.นราธิวาส "โครงการพระราชดำริฯ" ที่ได้มากกว่าน้ำ

นับเป็นอีกหนึ่งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำที่ได้มากกว่าน้ำ โดยก่อให้เกิดประโยชน์ด้านความรักความสามัคคีแก่ชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การร่วมแรงร่วมใจที่จะดูแลรักษาแหล่งน้ำ ตลอดจนพัฒนากิจกรรมด้านอื่น ๆ อย่างยั่งยืนในภายภาคหน้าต่อไป