ส่งออกไทยปีม้า 2569 เสี่ยงโตต่ำ 2–4% ฐานสูง–บาทแข็ง–ภาษีสหรัฐ ตัวฉุด

31 ธ.ค. 2568 | 00:10 น.

ส่งออกไทยปี 69 เจอศึกหนัก เสี่ยงโตต่ำ 2-4% ห่วงเงินบาทแข็งฉุดมูลค่า ออเดอร์ชะลอ สินค้าเกษตรพื้นฐานเสี่ยงติดลบ ชี้ตัวเลขบวกอาจมาจากทรานชิปเมนต์มากกว่าผู้ผลิตไทยแท้

KEY

POINTS

  • คาดการณ์ว่าการส่งออกไทยในปี 2569 จะขยายตัวในระดับต่ำที่ 2-4%
  • ปัจจัยลบที่สำคัญคือ ฐานการส่งออกที่สูงในปี 2568 ค่าเงินบาทที่แข็งค่า และผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
  • เผชิญความท้าทายจากอุปสงค์โลกที่ชะลอตัว คำสั่งซื้อใหม่ลดลง และความเสี่ยงในกลุ่มสินค้าเกษตรที่น่ากังวล

กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการส่งออกไทยช่วง 11 เดือนแรกปี 2568 มีมูลค่า 310,706 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 12.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งภาพรวมทั้งปีนี้คาดจะขยายตัวได้ 11.6-12.1% หรือจะมีมูลค่าการส่งออก 335,707 - 337,207 ล้านดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปสงค์สินค้ากลุ่ม AI ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนทิศทางแนวโน้มการส่งออกไทยในปี 2569 ประเมินว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงระหว่าง -3.1% ถึง +1.1% โดยมีปัจจัยที่จะส่งผลกระทบที่สำคัญ คือ ฐานตัวเลขการส่งออกปี 2568 สูง แนวโน้มอุปสงค์โลกชะลอตัว เงินบาทแข็งค่ากระทบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคา

โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ภาษีนำเข้าสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอีก 19% สำหรับสินค้าไทยที่จะเป็นภาระต้นทุนและมีผลต่อการเจรจาต่อรองตลอดทั้งปี การเจรจาการค้าต่างตอบแทนไทย-สหรัฐอเมริกาที่ยังมีความไม่แน่นอน รวมถึงปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศที่จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรเพื่อใช้แปรรูปส่งออก

ทั้งนี้ในมุมมองของภาคเอกชนที่เป็นผู้ส่งออกตัวจริงมองอย่างไรนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท./สภาผู้ส่งออก) ที่ให้มุมมองไว้อย่างน่าสนใจ

บาทแข็งค่าฉุดส่งออกโตต่ำ

นายธนากร กล่าวว่า เนื่องจากฐานการส่งออกของไทยในปี 2568 อยู่ในระดับสูง โดยมีโอกาสขยายตัวมากกว่า 10% ซึ่งอาจจะส่งผลให้ทิศทางการส่งออกในปี 2569 ไม่เติบโตสูงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยทาง สรท. ได้มีการประมาณการตัวเลขไว้ว่าจะขยายตัวที่ 2-4% เนื่องจากภาพรวมการส่งออกไทยในปี 2569 ยังต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งจากฐานสูง ค่าเงินบาทแข็งค่า คำสั่งซื้อที่ชะลอตัว และความไม่แน่นอนด้านภาษีของสหรัฐและการค้าโลก

สำหรับเงินบาทแข็งค่าเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่กดดันการส่งออกไทย ซึ่งปัจจุบันเคลื่อนไหวในระดับแข็งค่าประมาณ 31 บาทต่อดอลลาร์ และมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกเมื่อคำนวณเป็นเงินบาทลดลง แม้ปริมาณการส่งออกในรูปดอลลาร์อาจยังขยายตัวได้บ้าง

 

ส่งออกไทยปีม้า 2569 เสี่ยงโตต่ำ 2–4% ฐานสูง–บาทแข็ง–ภาษีสหรัฐ ตัวฉุด

 

 “ถ้าดูตัวเลขเป็นเงินบาท มองว่าการส่งออกมีโอกาสติดลบได้ เพราะขายของได้ดอลลาร์เท่าเดิม แต่แปลงเป็นเงินบาทได้น้อยลง ค่าเงินมีผลมากจริง ๆ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการส่งออกในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ยังพอมีโอกาสเติบโตในกรอบ 2-4% แต่ก็ถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา และต่ำกว่าที่ภาคธุรกิจต้องการเพื่อพยุงการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม” นายธนากร กล่าว

ตัวเลขไม่สะท้อนส่งออกที่แท้จริง

 นายธนากร กล่าวอีกว่า หากตัวเลขส่งออกของไทยปี 2569 ยังออกมาเป็นบวก อาจไม่ได้สะท้อนความแข็งแกร่งของผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยอย่างแท้จริง แต่เป็นผลจากการส่งออกสินค้าผ่านประเทศไทย (transshipment) จากประเทศอื่น โดยเฉพาะจีน ที่ยังใช้ไทยเป็นฐานผ่านสินค้าไปยังตลาดสหรัฐและตลาดอื่น ๆ

 สำหรับตลาดสหรัฐ หลังภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ไทย 19% มีผลบังคับใช้แล้ว (ตั้งแต่ 7 ส.ค. 2568) แต่เวลานี้ยังไม่มีมาตรการควบคุมเรื่องแหล่งกำเนิดสินค้า (Local Content) ที่ชัดเจน ทำให้ยังมีสินค้าจากประเทศอื่น โดยเฉพาะจีน ผ่านเข้ามาไทยแล้วส่งออกไป มีส่วนสำคัญทำให้ตัวเลขส่งออกโดยรวมของไทยขยายตัวและเป็นบวกในปีที่ผ่านมา ในทางตรงกันข้าม หากพิจารณาเฉพาะผู้ประกอบการและผู้ผลิตไทยแท้ ตัวเลขคำสั่งซื้อและการส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างชัดเจน และบางอุตสาหกรรมเริ่มเห็นสัญญาณหดตัว

 

นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย

 

ออเดอร์ชะลอ-สินค้าเกษตรน่าห่วง

 อย่างไรก็ดี คำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากต่างประเทศในปี 2569 ยังมีเข้ามา แต่มีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปี 2568 สาเหตุสำคัญมาจากการที่คู่ค้าต่างประเทศได้เร่งตุนสินค้าไว้จำนวนมากในช่วงปีที่ผ่านมาก่อนภาษีสหรัฐจะปรับขึ้น สำหรับกลุ่มสินค้าที่น่ากังวล ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าเกษตรพื้นฐานที่ไม่มีการแปรรูป โดยเฉพาะข้าวและยางพารา ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณการหดตัวแล้ว โดยราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกผันผวน ความต้องการที่ชะลอลง และการแข่งขันจากประเทศคู่แข่ง ล้วนเป็นปัจจัยที่กดดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทยในปี 2569

 “สินค้าเกษตรพื้นฐาน อย่างข้าว ยางพารา ตัวเลขตอนนี้ส่งสัญญาณชะลอตัวลง ขณะที่สินค้าที่มีโอกาสเติบโตเป็นกลุ่มสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานโลก (supply chain) ที่ใช้เป็นวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนที่ประเทศคู่ค้าจำเป็นต้องนำไปใช้ต่อในการผลิต เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสินค้าเกษตรแปรรูป ดังนั้นการปรับตัวของผู้ประกอบการไทยต้องมุ่งไปสู่การผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และเชื่อมโยงกับห่วงโซ่การผลิตโลก ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการพยุงการส่งออกไทยในระยะต่อไป”

ความเสี่ยงภาษีสหรัฐยังไม่จบ

 นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด คือท่าทีของสหรัฐต่อการใช้มาตรการทางภาษีกับประเทศไทย ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังไม่จบ และยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะในบริบทความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค และสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังมีความอ่อนไหว อาจถูกหยิบยกมาเชื่อมโยงกับประเด็นทางการค้าได้ในอนาคต โดยสหรัฐอาจนำเรื่องภาษีมาใช้เป็นเครื่องมือกดดันและปรับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มได้ ซึ่งต้องจับตาต่อไป

ส่งออกไทยปีม้า 2569 เสี่ยงโตต่ำ 2–4% ฐานสูง–บาทแข็ง–ภาษีสหรัฐ ตัวฉุด