ข้าวไทยเจอศึกหนัก พาณิชย์ตั้งเป้าปี 69 ส่งออก 7 ล้านตัน

26 ธ.ค. 2568 | 06:30 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ธ.ค. 2568 | 08:01 น.

กรมการค้าต่างประเทศ ประเมินปี 69 ส่งออกข้าวไทย 7 ล้านตัน เผชิญการแข่งขันดุจากสต็อกอินเดีย–ดีมานด์โลกชะลอ เดินหน้าดันดีลรัฐต่อรัฐ ขยายตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา และตลาดพรีเมียม

KEY

POINTS

  • กรมการค้าต่างประเทศตั้งเป้าการส่งออกข้าวไทยในปี 2569 ไว้ที่ปริมาณ 7 ล้านตัน
  • เผชิญความท้าทายจากการแข่งขันที่สูงในตลาดโลก การระบายสต็อกข้าวของอินเดีย และความต้องการนำเข้าที่อาจลดลงจากคู่ค้าสำคัญ
  • มีแผนรุกตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับข้าวขาวและข้าวนึ่ง เช่น ตะวันออกกลางและแอฟริกา ควบคู่กับการรักษาตลาดเดิมและเจรจาการค้าแบบรัฐต่อรัฐ

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยปี 2568 ว่า การส่งออกปี 68 คาดว่าปริมาณ 7.8-8 ล้านตัน ซึ่งเกินเป้าที่คาดการณ์ไว้ จากความต้องการนำเข้าในช่วงปลายปีและไทยมีผลผลิตข้าวนาปีรองรับคำสั่งซื้อดังกล่าว แม้ตลาดการค้าข้าวโลกจะเผชิญแรงกดดันจากอุปทานส่วนเกิน โดยเฉพาะสต็อกข้าวอินเดียที่ต้องระบายจำนวนมาก ซึ่งมีผลต่อทิศทางราคาในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ 

โดยในช่วงเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2568 ไทยส่งออกข้าวแล้ว 7.29 ล้านตัน ลดลง 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมูลค่าการส่งออกลดลง 30% อยู่ที่ 4,162 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 136,823 ล้านบาท ซึ่งตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญ ได้แก่ อิรัก 0.95 ล้านต้น แอฟริกาใต้ 0.82 ล้านตัน สหรัฐอเมริกา 0.73 ล้านตัน จีน 0.60 ล้านตัน และเซเนกัล 0.29 ล้านตัน

สำหรับชนิดข้าวส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ 

  • ข้าวขาว 3.37 ล้านตัน 46.23%
  • ข้าวหอมมะลิไทย 1.60 ล้านตัน 21.95%
  • ข้าวนึ่ง 1.39 ล้านตัน 19.07%
  • ข้าวหอมไทย 0.54 ล้านตัน 7.41%
  • ข้าวเหนียว 0.30 ล้านตัน 4.12%
  • ข้าวกล้อง 0.09 ล้านตัน 1.22%

ทั้งนี้ได้หารือประเมินสถานการณ์ตลาดข้าวในปี 2569 ร่วมกับภาคเอกชนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ซึ่งคาดว่ายังคงมีภาวะที่ใกล้เคียงกับปี 2568 ทั้งภาพรวมปริมาณผลผลิตข้าวโลกและความต้องการของผู้นำเข้า โดยตลาดข้าวโลกยังคงมีการแข่งขันสูงจากผลผลิตข้าวที่ยังคงมีปริมาณมากจากสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเพาะปลูก และการระบายสต็อกข้าวปริมาณมากของอินเดีย 

รวมถึงความต้องการนำเข้าข้าวของคู้ค้าสำคัญ เช่น อินโดนีเซีย ที่มีแนวโน้มลดการนำเข้าข้าวลงจากนโยบายพึ่งพาตนเองด้านอาหาร นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามปัจจัยสำคัญที่อาจกระทบต่อการส่งออกข้าวของไทย อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลก การแข็งค่าและความผันผวนของค่าเงินบาท รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลต่อต้นทุนค่าขนส่ง

ขณะเดียวกัน ได้คาดการณ์ร่วมกันว่าการส่งออกข้าวไทยในปี 2569 จะมีปริมาณ 7 ล้านตัน โดยกรมฯ พร้อมเดินหน้าทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมตลาดและผลักดันการส่งออกข้าวไทย โดยมุ่งเน้นการรักษาตลาดเดิมและรุกตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งกิจกรรมหลักในปี 2569 

แผนส่งเสริมส่งออกข้าวไทยปี 69

1.การผลักดันและเจรจาซื้อขายข้าวที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับรัฐบาลจีน ปริมาณ 500,000 ตัน รวมทั้งติดตามการดำเนินงานภายใต้บันทึกความร่วมมือด้านการค้าข้าวกับรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ได้ตกลงปริมาณซื้อขายข้าวสูงสุด ไม่เกิน 100,000 ตัน ตลอดระยะเวลา 5 ปี 

2. การเร่งขยายตลาดข้าวขาวและข้าวนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพ เช่น อิรัก ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงประเทศในภูมิภาค ตะวันออกกลางและแอฟริกา ตลอดจนขยายตลาดข้าวประณีต เช่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา 

3. การกระชับความสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นกับคู่ค้าสำคัญเพื่อขยายตลาดข้าวไทย อาทิ ฮ่องกง จีน สหรัฐอเมริกา และแคนาดา เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการค้าและเพิ่มโอกาสการส่งออก 

4. การเดินหน้าประชาสัมพันธ์ข้าวไทยผ่านงานแสดงสินค้านานาชาติ พร้อมเชื่อมโยงผู้นำเข้า – ผู้ส่งออกข้าว โดยนำผู้ประกอบการรายย่อยเข้าร่วมเจรจาซื้อขายข้าวกับผู้นำเข้าในงาน 

นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนโปรโมตข้าวไทยผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นความต้องการบริโภคข้าวไทยในวงกว้าง รวมถึงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยจัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคข้าวไทยร่วมกับร้านอาหาร หรือ Key Influencers ที่มีชื่อเสียงด้วย