ส่งออกไทย เดือนต.ค. โต 5.7% ลุ้นทั้งปีทะลุเป้า 11.4%

25 พ.ย. 2568 | 05:32 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2568 | 05:40 น.

สนค. เผยส่งออกไทยเดือน ต.ค.68 มูลค่า 28,835.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 5.7% โตต่อเนื่อง 16 เดือนติด ลุ้นส่งออกทั้งปีโต 10.7-11.4% เกินเป้าหมายแน่นอน

KEY

POINTS

  • การส่งออกไทยเดือนตุลาคม 2568 ขยายตัว 5.7% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 โดยมีมูลค่า 28,835.6 ล้านดอลลาร์
  • สินค้าอุตสาหกรรมเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ขยายตัว 8.8% โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ในขณะที่สินค้าเกษตรหดตัว 5.1%
  • ภาพรวม 10 เดือนแรกเติบโต 13.0% และคาดว่าการส่งออกทั้งปี 2568 จะขยายตัวได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยอาจเติบโตถึง 11.4%

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงการณ์ส่งออกของไทยในเดือนตุลาคม 2568 มีมูลค่า 28,835.6 ล้านดอลลาร์ หรือ 910,316 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ที่ 5.7% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ 15.7% การส่งออกไปยังตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรป รวมถึงตลาดรอง เช่น เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา ที่ยังคงขยายตัวได้ดี 

แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ แรงสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง รวมถึงสินค้ากลุ่มยานยนต์ และภาคการผลิตโลกที่อยู่ในภาวะขยายตัว จากผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ 

อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังคงอยู่ในภาวะหดตัว ทั้งนี้ การส่งออก 10 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ 13.0 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 13.8  

ทั้งนี้ การนำเข้าเดือน ตุลาคม 2568 มีมูลค่า 32,272.5 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 16.3% ดุลการค้า ขาดดุล 3,436.9 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวม 10 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 282,982.1 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 286,848.3 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 12.4% ดุลการค้า ขาดดุล 3,866.2 ล้านดอลลาร์

ส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร

ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 5.1% หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน โดยสินค้าเกษตร หดตัว 14.6% หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 6.2% ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ 

  • ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ขยายตัว 168.9% ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน 
  • ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ ขยายตัว 8.0% ขยายตัวต่อเนื่อง 22 เดือน 
  • ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัว 15.0% ขยายตัวต่อเนื่อง 25 เดือน 
  • กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ขยายตัว 24.3% ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน 

ด้านสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ยางพารา หดตัว 12.5% หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน 

  • ข้าว หดตัว 38.6% หดตัวต่อเนื่อง 12 เดือน
  • อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป หดตัว 4.8% หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน 
  • ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง หดตัว 35.8% หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน 
  • ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัว 19.2% หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน 
  • เครื่องดื่ม หดตัว 9.8% หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน 

ทั้งนี้ 10 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 0.03

ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม

สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 8.8% ขยายตัวต่อเนื่อง 19 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 67.8% ขยายตัวต่อเนื่อง 19 เดือน 

  • รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 16.3% ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน
  • เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 21.5% ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน
  • อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัว 25.8% ขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน 
  • เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขยายตัว 17.1% ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน
  • แผงสวิตซ์และแผงควบคุมไฟฟ้า ขยายตัว 49.2% ขยายตัวต่อเนื่อง 22 เดือน 

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ เคมีภัณฑ์ หดตัว 5.0 หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน 

  • เม็ดพลาสติก หดตัว 6.6% หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว หดตัว 10.6% กลับมาหดตัวหลังจากขยายตัวในเดือนก่อนหน้า 
  • เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์และส่วนประกอบ หดตัว 13.7% หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน 

ทั้งนี้ 10 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 17.5%

แนวโน้มส่งออกทั้งปี68

นายนันทพงศ์ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2568 อีก 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง แม้จะเติบโตในอัตราชะลอตัวลง โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความต้องการในระดับสูง รวมถึงสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารที่ยังคงมีความต้องการในตลาดโลก คาดว่า จะส่งออกได้เฉลี่ย 25,000-26,000 ดอลลาร์ ทำให้การส่งออกทั้งปี 2568 ขยายตัวเกินไปจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2-3% อย่างแน่นอน โดยประเมินว่าจะขยายตัวตั้งแต่ 10.7% มีมูลค่า 332,982.1 ดอลลาร์ และ 11.4% มูลค่า 334,982.1 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จะกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออก สต๊อกสินค้าที่เพิ่มขึ้นของประเทศคู่ค้า จะส่งผลให้การนำเข้าชะลอตัวและกระทบต่อการส่งออกของไทย รวมไปถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ที่จะกระทบต่อการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งต้องประเมินต่อไป

สำหรับเป้าหมายการส่งออกปี 2569 ขณะนี้ สนค.อยู่ระหว่างการประเมินปัจจัยสนับสนุน และผลกระทบ แต่เบื้องต้น เห็นว่า มีสัญญาณชะลอตัวลงจากปี 2568 เพราะฐานปี 2568 สูง ผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ แม้ไทยจะปรับตัวได้ แต่เริ่มมีผลกระทบต่อการส่งออกชะลอตัวแน่ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้า และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังประเมินเศรษฐกิจปี 2569 ชะลอตัว องค์การการค้าโลก (WTO) ก็ประเมินการค้าโลกชะลอตัว ซึ่งส่งผลต่อการส่งออก โดยตัวเลขจะเป็นเท่าไร เดือน ธ.ค.2569 น่าจะได้ตัวเลข แต่ยังเป็นบวกแน่นอน