KEY
POINTS
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เรื่อง ทบทวนโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี จากมติที่ประชุม นบข.เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 และคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 เห็นชอบในหลักการมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2568/69 จำนวน 3 โครงการ เป้าหมาย 8 ล้านตัน วงเงินจ่ายขาดรวม 10,462.48 ล้านบาท ได้แก่
1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เป้าหมาย 3 ล้านตัน วงเงินจ่ายขาด 9,164.23 ล้านบาท
2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน วงเงินจ่ายขาด 656.25 ล้านบาท
3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก เป้าหมาย 4 ล้านตัน วงเงินจ่ายขาด 642 ล้านบาท
ต่อมา ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีหนังสือลงวันที่ 16 กันยายน และวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ถึงอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ขอให้ทบทวนราคาการให้สินเชื่อต่อตันให้สอดคล้องกับราคาตลาดในปัจจุบัน
เนื่องจากสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกในปัจจุบันมีแนวโน้มต่ำกว่าราคาการให้สินเชื่อต่อตันตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก ปีการผลิต 2568/69 โดยเฉพาะข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี และข้าวเหนียว ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้นกฎหมายและด้านการเงิน เช่น ความไม่สอดคล้องกับหลักสินเชื่อ การใช้งบประมาณของรัฐที่ไม่เป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาล หรือเข้าข่ายบิดเบือนกลไกการค้า
ทั้งนี้การปรับลดราคาสินเชื่อและแนวทางการกำหนดราคาสินเชื่อข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานีและข้าวเปลือกเหนียว ใหม่ ให้สอดคล้องกับราคาตลาดในปัจจุบัน โดยพิจารณาจากราคาสินเชื่อ โดยใช้ 90% ของราคาเฉลี่ย ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ดังนี้ ข้าวเปลือกเจ้า ราคาสินเชื่อ 5,800 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกปทุมธานี ราคา 7,600 บาทต่อตัน และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 8,600 บาทต่อตัน
เพื่อลดความเสี่ยงที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะไม่มาไถ่ถอนข้าวเปลือก และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดว่าราคาจะไม่ต่ำกว่าราคาสินเชื่อ และไม่เป็นภาระของงบประมาณในการระบายข้าว ดังนั้นก็ขอให้เกษตรกรรับทราบราคาสินเชื่อที่ผ่านการพิจารณา ของ นบข.และครม.เพื่อทำความเข้าใจกับเกษตรกร จากนั้นก็ให้กรมการค้าภายใน เพื่อนำเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามระเบียบต่อไป