ชาวนาเฮ ! นบข. เคาะ สินเชื่อชะลอขายข้าว 1,500 ต่อตัน พยุงราคา

18 พ.ย. 2568 | 11:45 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2568 | 12:03 น.

พาณิชย์ เผยประชุม นบข. เคาะสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี เดินหน้าแผนโซนนิ่ง 1 ล้านไร่ ขณะจีน–สิงคโปร์สั่งซื้อรวม 6 แสนตัน ดันราคาข้าวหอมมะลิ-ข้าวขาวปรับขึ้นต่อเนื่อง

KEY

POINTS

  • คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) อนุมัติโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 2568/69 โดยให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรที่มีฉางเก็บข้าว 1,500 บาทต่อตัน เพื่อพยุงราคา
  • ปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อข้าวเพิ่มจากจีนและสิงคโปร์ ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศเริ่มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ราคาขยับขึ้นเฉลี่ย 500 บาทต่อตัน
  • ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการดูดซับผลผลิตข้าวส่วนเกิน 3 ล้านตัน และอนุมัติในหลักการให้ส่งเสริมการปลูกพืชอื่นทดแทนนาข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม

วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2568) ณ ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุม โดยมีนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งภาครัฐ และเอกชน เข้าร่วมการประชุม 

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีการอนุมัติโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2568/69 เพื่อชะลอการขายสำหรับเกษตรกรที่มี ยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน ขณะที่คนเกษตรไม่ยุ้งฉาง 500 บาทต่อตันและให้สถาบันการเกษตร 1,000 บาทต่อตัน รวมวงเงิน 9,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะนำเข้าสู่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า  

ขณะที่มาตรการปรับโซนนิ่งนำร่อง 1,000,000 ไร่ โดยจะสนับสนุนให้เกษตรกร 1,500 - 2,000 บาทต่อไร่ ที่ประชุมอนุมัติในหลักการว่าจะดำเนินการ โดยให้ชาวนาเปลี่ยนมาปลูกข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปวางแผนการทำงานแล้วนำเข้าสู่วาระการประชุมในครั้งถัดไป

นอกจากนี้ มาตรการดูดซับผลผลิตข้าวส่วนเกิน ปีการผลิต 2568/69 และมาตรการระยะยาวเพื่อปรับปรุงโครงสร้างการผลิต ที่มติ เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปบริหารจัดการข้าวเปลือกส่วนเกินจำนวน 3 ล้านตัน โดยนำไปแปรสภาพเป็นข้าวถุง เพื่อเชื่อมโยงและระบายผ่านหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานของกระทรวงกลาโหม

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้รับทราบข่าวดี กรณีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนตกลงสั่งซื้อข้าวจากไทยเพิ่มอีก 500,000 ตัน และสัญญาซื้อขายเพื่อความมั่นคงทางอาหารกับสิงคโปร์อีก 100,000 ตัน ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดเริ่มปรับตัวสูงขึ้นแล้ว โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ราคาขยับขึ้นเฉลี่ย 500 บาทต่อตัน ไปอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทเศษต่อตัน ส่วนข้าวขาวปรับขึ้นประมาณ 100 บาทต่อตัน มาอยู่ที่ 6,500 บาทต่อตัน 

นอกจากนี้ ยังมีแผนส่งเสริมเกษตรกรผู้ผลิตข้าวคุณภาพสูงจำนวน 200 กลุ่ม เพื่อเชื่อมโยงตลาดและผลักดันการส่งออกต่อไป

“แผนดังกล่าวยังมุ่งยกระดับข้าวไทยให้เข้าสู่ตลาดพรีเมียม โดยคัดเลือกกลุ่มเกษตรกร 200 กลุ่มเป็นโมเดลกำลังผลิต พร้อมเชื่อมโยงตลาด เช่น โรงแรม 5 ดาว ร้านอาหารชั้นนำ รวมถึงตลาดส่งออก ขณะเดียวกันจะสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสี ทำแพคเกจ หรือเครื่องตรวจคุณภาพ เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรสามารถยกระดับเป็นผู้ผลิตข้าวคุณภาพสูงได้จริงในเชิงพาณิชย์” อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าว

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยภายหลังการประชุม นบข. ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติทุกวาระที่เสนอซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเดิม ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือชาวนาที่หลายฝ่ายจับตา เช่น โครงการส่งเสริมการปลูกพืชอื่นทดแทนนาข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม (Zoning) จำนวน 1 ล้านไร่ โดยจะให้เงินสนับสนุนไร่ละ 1,500 - 2,000 บาทนั้น ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปและยังไม่มีการอนุมัติอย่างเป็นทางการ 

โดยระบุว่ายังต้องกลับไปพิจารณาและหารือกับเกษตรกรถึงความพร้อมและความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ รวมถึงตลาดรองรับผลผลิตก่อน