KEY
POINTS
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมทั่วประเทศ ณ 7 พ.ย. 2568 พบยังมีพื้นที่ประสบภัยต่อเนื่อง 15 จังหวัด ครอบคลุมกว่า 3,000 หมู่บ้าน ส่งผลกระทบประชาชนกว่า 4.7 แสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย
ทั้งนี้ภาคกลางยังคงเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีประชาชนเดือดร้อนกว่า 97,000 ครัวเรือน ใน 9 จังหวัด โดยเฉพาะ พระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีวัด C.35 สูงกว่าตลิ่งถึง 1.12 เมตร และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
พื้นที่อื่น ๆ เช่น สุพรรณบุรี และ นครปฐม ระดับน้ำแม่น้ำท่าจีนสูงกว่าตลิ่ง 1.79 เมตร และ 1.17 เมตร ตามลำดับ ขณะที่ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง ปทุมธานี และ นนทบุรี ยังคงต้องเฝ้าระวังน้ำจากการระบายของเขื่อนเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด
ภาคเหนือ ได้รับผลกระทบใน 5 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ พิษณุโลกและพิจิตร โดยระดับน้ำในพื้นที่ส่วนใหญ่เริ่มทรงตัวหรือเริ่มลดลง โดยเฉพาะที่สุโขทัยและกำแพงเพชร
กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ซึ่งอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงบ่ายวันนี้ (7 พ.ย. 2568) ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน
สำหรับจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และ บุรีรัมย์
ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขนย้ายประชาชน การแจกถุงยังชีพ และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในหลายพื้นที่ ดังนี้
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง คลื่นสูง 2–3 เมตร และมากกว่า 3 เมตรในบางช่วง ปภ. ขอให้เรือเล็กงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน เพื่อความปลอดภัย
ปภ. ย้ำให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตือนประชาชนติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดในช่วงที่พายุ “คัลแมกี” เคลื่อนผ่านประเทศ