สภาพอากาศวันนี้ -12 พ.ย.พายุคัลแมกี ไทยฝนฉ่ำ ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ -12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568(พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)ในช่วงวันที่ 6 – 9 พ.ย. ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 6 – 7 พ.ย.  หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยในวันที่ 7 พ.ย. 68 พายุนี้จะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงและปกคลุมบริเวณภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตามลำดับ

ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น

ในช่วงวันที่ 10 – 12 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนจะเริ่มมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรงในช่วงวันที่ 6 – 7 พ.ย. โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร  ส่วนในช่วง 8 – 12 พ.ย. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 
 

ข้อควรระวังวันที่ 6 - 9 พ.ย. 68

• ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง
• เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร 
• สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง
• ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 7 พ.ย.

 

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 6 – 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ภาคเหนือ
วันที่ 7 - 10 พ.ย.68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9 - 16 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.

วันที่ 11 - 12 พ.ย. 68

• อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส  บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 6 – 9 พ.ย. 68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ กับมีลมแรงในช่วงวันที่ 7 – 8 พ.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 - 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13 - 19 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.

วันที่ 10 - 12 พ.ย.68

• อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 32 องศาเซลเซียส  บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13 - 19 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.

ภาคกลาง
วันที่ 7 – 9 พ.ย.68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.

วันที่ 10 – 12 พ.ย.68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
• อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 33 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก
วันที่ 7 – 9 พ.ย. 68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

วันที่ 10 - 12 พ.ย.68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่

วันที่ 6 – 7 พ.ย. 68

• ลมแปรปรวน ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

วันที่ 8 – 12 พ.ย. 68

• ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
• อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
วันที่ 6 – 7 พ.ย. 68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
• ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันตก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
• ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันตก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

วันที่ 8 – 12 พ.ย. 68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
• อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
วันที่ 6 – 7 พ.ย. 68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

วันที่ 8 – 12 พ.ย. 68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
• อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล
วันที่ 7 – 9 พ.ย.68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม. 

วันที่ 10 – 12 พ.ย. 68

• มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. 
• อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส