ทองคำยังฮอตทั่วโลก! ธนาคารกลางแห่ตุน - 9 เดือนไทยนำเข้าพุ่งกว่า 207 ตัน

02 พ.ย. 2568 | 22:22 น.

กระแสทองคำยังแรงทั่วโลก หลังธนาคารกลางหลายประเทศเร่งสะสมสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน 9 เดือน ไทยนำเข้าทองพุ่งแตะ 207 ตัน มูลค่ากว่า 3.9 แสนล้านบาท จีน–ยูเออี ขึ้นแท่นแหล่งนำเข้ารายใหญ่ โตแรง 600–700% ขณะกัมพูชารั้งตลาดส่งออกอันดับสอง

KEY

POINTS

  • ความต้องการทองคำทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น โดยธนาคารกลางหลายประเทศเร่งสะสมทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-ก.ย.) ไทยนำเข้าทองคำรวมกว่า 207.93 ตัน มูลค่ากว่า 4.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.48% จากปีก่อนหน้า
  • แหล่งนำเข้าทองคำหลักของไทยคือ สวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสิงคโปร์ โดยการนำเข้าจากจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ตลาดทองคำโลกยังอยู่ในช่วงขาขึ้น และยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนทั่วโลกในฐานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย” ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดย World Gold Council (WGC) รายงานว่า ในไตรมาส 3 ของปี 2568 ความต้องการทองคำทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะ 1,313 ตัน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งในด้านมูลค่าและแนวโน้ม

ขณะที่ธนาคารกลางของหลายประเทศเริ่มตุนทองมากขึ้นส่งสัญญาณว่า พวกเขาไม่ได้มองทองคำแค่เครื่องประดับหรือโลหะมีค่า แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในพอร์ตสินทรัพย์เพื่อรับมือกับวิกฤต

สำหรับประเทศไทย การนำเข้าทองคำและความสนใจจากผู้ลงทุนในประเทศได้เพิ่มขึ้นตามกระแสความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากต่างประเทศ สะท้อนถึงโอกาสและความเสี่ยงที่มาพร้อมกัน 

จากการตรวจสอบข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร ของ "ฐานเศรษฐกิจ" ช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 (ม.ค.-ก.ย.) ไทยมีการนำเข้าทองคำ ปริมาณรวม 207,937 กิโลกรัม (หรือกว่า 207.93 ตัน) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีการนำเข้า 146,580 กิโลกรัม (หรือ 146.58 ตัน)

มีมูลค่าการนำเข้า 462,723.15 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 2567 มีมูลค่าการนำเข้า 390,547.24 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.48%

สำหรับแหล่งนำเข้าทองคำ 5 อันดับแรกของไทย ช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 ได้แก่

  1. สวิตเซอร์แลนด์ มูลค่านำเข้า 115,734.38 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -27.83% สัดส่วนการนำเข้า 25.01%
  2. ฮ่องกง มูลค่านำเข้า 97,778.21 ล้านบาท ลดลง -19.10% สัดส่วนการนำเข้า 21.13%
  3. จีน มูลค่านำเข้า 90,827.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 670.75% สัดส่วนการนำเข้า 19.63%
  4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มูลค่านำเข้า 80,474.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 763.04% สัดส่วนการนำเข้า 17.39%
  5. สิงคโปร์ มูลค่านำเข้า 24,243.21 ล้านบาท ลดลง -1.24% สัดส่วนการนำเข้า 5.24%

ในอีกด้านหนึ่ง การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย ช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 มีมูลค่ารวม 719,347.70 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 62.42% โดยตลาดส่งออก 5 อันดับแรกได้แก่

  1. สหรัฐอเมริกา มูลค่าส่งออก 59,690.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  2. สิงคโปร์ มูลค่าส่งออก 55,888.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.56%
  3. เยอรมนี มูลค่า 15,134.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.51%
  4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มูลค่า 14,004.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122.48%
  5. สปป.ลาว มูลค่า 13,147.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176.46%

อย่างไรก็ดี ตัวเลขการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับข้างต้นจากการตรวจสอบพบว่า สินค้าส่งออกส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในภาพรวม 9 เดือนแรกของปีนี้

ขณะที่การส่งออกเครื่องประดับแท้ทำด้วยทองจากโรงงานผลิต ที่ช่วยเพิ่มการจ้างงาน และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศ ช่วง 9 เดือนแรก ปี 2568 มีมูลค่า 79,789.93 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 2567 มีการส่งออก 73,711.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเพียง 8.25%

โดยการส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป 9 เดือนแรกปี 2568 มีปริมาณ 108,682 กิโลกรัม (หรือมากกว่า 108.68 ตัน) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีการส่งออก 74,056 กิโลกรัม (หรือ 74.05 ตัน) มูลค่าการส่งออก 364,548.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีการส่งออก 192,512.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น +89.36%

ตลาดส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป 5 อันดับแรกของไทย ได้แก่

  1. สวิตเซอร์แลนด์ มูลค่าส่งออก 187,453.14 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน +201% โดยตลาดสวิตเซอร์แลนด์คิดเป็นสัดส่วนการส่งออก 51.42%
  2. กัมพูชา มูลค่าส่งออก 80,071.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% สัดส่วนส่งออก 21.96%
  3. สิงคโปร์ มูลค่าส่งออก 48,448.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.06% สัดส่วนส่งออก 13.29%
  4. สปป.ลาว มูลค่าส่งออก 12,747.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.19% สัดส่วนส่งออก 3.50%
  5. ฮ่องกง มูลค่าส่งออก 10,603.92 ล้านบาท ลดลง -23.99% สัดส่วนส่งออก 2.91%

แหล่งข่าวจากผู้ผลิตและส่งออกเครื่องประดับอัญมณี กล่าวว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับที่ขยายตัวมากกว่า 62% ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ถือเป็นภาพลวงตา เพราะส่วนใหญ่เป็นการซื้อมาและส่งออกไปในส่วนของทองคำยังไม่ขึ้นรูป หรือทองคำแท่งเพื่อการเก็งกำไร ขณะที่การส่งออกเครื่องประดับแท้ทำด้วยทองจากโรงงานผลิตขยายตัวเพียง 8%

การขยายตัวดังกล่าวเป็นการขยายตัวในแง่มูลค่าตามราคาทองคำที่ใช้เป็นวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นมากในปีนี้ ขณะที่ข้อเท็จจริงในเวลานี้ การส่งออกเครื่องประดับแท้ทำด้วยทองของไทยมีปริมาณที่ลดลง ส่งผลกระทบต่อโรงงานผู้ผลิตเพื่อส่งออกหลายโรงต้องปรับลดคนงานลง