แนะไทยลดภาษีสหรัฐเลียนโมเดลเวียดนาม –พ่วงฟื้นประกันรายได้อุ้มเกษตรกร

ไทยเป็นหนึ่งใน 14 ประเทศกลุ่มแรกที่ได้รับแจ้งจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศอัตราราภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกา ของประเทศไทยคงที่ 36% และกำลังรอการเจรจารอบใหม่ ก่อนการบังคับใช้วันที่ 1 สิงหาคมนี้

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า อย่าเรียกว่า "เจรจา" ต้องเรียกว่า "ลดความสูนเสียหรือเสียหาย" ให้น้อยที่สุด จึงไม่เป็น win-win เนื่องจากไม่ใช่การเจรจาข้อตกลงการค้าฯ วันนี้เวียดนามเปิดศูนย์เปอร์เซ็นต์สินค้านำเข้าจากสหรัฐ แต่ถูกเก็บ 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นลองทำบัญญัติไตรยางดูก็ได้ โดยเอาตัวเลขได้ดุล 20% และ ศูนย์มาเปรียบเทียบกับไทยว่าจะได้ที่เท่าไหร่?  โดยตั้งตัวเลขภาษีนำเข้าศูนย์เปอร์เซนต์ ไปก่อน และอย่าลืมว่าเวียดนามบริหารเศรษฐกิจที่เรียกว่า state capitalism คือรัฐยังมีอิทธิพลมากเหมือนการบริหารของจีน

“สำหรับไทยนั้นเข้าประเด็นที่ว่า รัฐเจรจา เอกชนปฏิบัติ หรือทุนนิยมเสรี ยกเว้นสินค้าที่รัฐซื้อได้เองเช่นอาวุธ นอกนั้นผมไม่แน่ใจ เช่นพลังงาน หรือเรือบิน แต่ที่แน่ๆคือวัตถุดิบอาหารสัตว์สองตัวหลัก ได้แก่ "ข้าวโพดและถั่วเหลือง" เพียงแต่รัฐต้องประกันรายได้เกษตรกรข้าวโพดเท่านั้น ส่วนถั่วเหลืองไทยนั้นได้รับการประกันราคาเรียบร้อยแล้ว"

นายพรศิลป์ กล่าวว่า อย่าไปแตะหมู เพราะจะเป็นอันตรายต่อสหรัฐด้วย หากเปิดให้หมูเข้ามาไทย ตลาดหมูจะพัง และจะเป็นผลให้อาหารสัตว์กระทบหนัก และก็จะกระทบข้าวโพดนำเข้าและถั่วเหลืองนำเข้าจากสหรัฐได้ (เป็นลูกโซ่) ดังนั้นเกษตรกรหมูสหรัฐต้องตกลงกับเกษตรกรข้าวโพดและถั่วเหลืองก่อนว่าจะเลือกอะไร?

ไทยต้องการใช้ข้าวโพดปีละ 4.5 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 4 หมื่นกว่าล้านบาท ถั่วเหลือง และ กากถั่วเหลือง 5 ล้านตัน มูลค่า ประมาณสองเท่าของข้าวโพด และที่สำคัญมากๆ ถั่วเหลืองสหรัฐปล่อยคาร์บอน ต่ำกว่าบราซิลและอาเจนตินา 10 เท่า หากเปิดได้สองตัวนี้ด้วยภาษี 0 เรา ก็จะยิงปืนนัดเดียวในนกสองตัวคือ.เรามีวัตถุดิบเพียงพอและยังช่วยให้สินค้าอุตสาหกรรมลดภาษีได้ ซึ่งอาจจะต่ำกว่า 20 เปอร์เซนต์ คำถาม: ทำไมไม่ยอมคิดสูตรนี้? หลงอะไรกันอยู่?

โดยภาพรวมรัฐบาลต้องเปลี่ยนการบริหารเศรษฐกิจการผลิตใหม่หมด อาจจะต้องทำงบประมาณใหม่เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมที่กระทบ(เหมือนข้าวโพด) ด้วยการอุดหนุนให้อยู่ได้ เป็นการปรับครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์และต้องทำทันที เพราะแม้วันนี้จะยังไม่มีข้อตกลงเราก็รู้แล้วว่าการส่งออกชะงักแน่นอนเพราะผู้นำเข้าของสหรัฐคาดเดาภาษีสินค้าที่จะนำเข้าจากไทยไม่ได้ สต๊อกเก่าก็จะหมดในเดือนนี้หรือเดือนหน้าแล้ว

นายพรศิลป์ กล่าวว่า โอกาสของรัฐบาลปัจจุบันแล้ว อย่าไปคิดว่าทรัมป์จะอยู่แค่สี่ปี เดี๋ยวก็ไปไม่ใช่แน่นอนเพราะเราจะ "ตาย" ก่อน และ Key Words: สำคัญ

1. ห้ามคิดว่าเป็นการเจรจาข้อตกลงการค้า ให้คิดว่าเป็นการลดความสูญเสีย เพราะหลักการคือ รัฐเจรจา เอกชนปฏิบัติ

2. ใช้ประโยชน์จากสินค้าเกษตรที่ผลิตไม่พอหรือขาดแคลน

3. เขียนงบประมาณรัฐใหม่หมด เพื่อสร้างศักยภาพการผลิตอย่างน้อย 5 ปี จากนี้ (และเริ่มได้ทันที)

4. ปรับโครงสร้างการผลิตให้เป็นคาร์บอนต่ำที่สุดในโลกในทุกผลิตภัณฑ์ (เราช้าไปมากแล้ว) มัวแต่ออกกฎหมายซึ่งไม่ได้พัฒนาแต่กลับไปทำโทษภาคการผลิตโดยการเก็บภาษี ฯลฯ (กลับหัวกลับหาง)

เอกสารแนบ (เวียดนามลดภาษีนำเข้าให้สหรัฐฯ)