นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ในฐานะอนุกรรมการ มอบหมายให้ นายชยพล ถิลา ผู้ตรวจการประจำภาค เป็นผู้แทน เข้าร่วมประชุมเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดการประชุม คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ด้านการตลาด ครั้งที่ 2/2568 ทั้งนี้ สาระสำคัญของการประชุม มีดังนี้
ส่วนสถานการณ์ข้าวไทย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมิถุนายน 2568 ข้าวนาปรังออกตลาดแล้ว 98% หรือ 7.7 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวนาปี 2568/69 เดือนสิงหาคมนี้ คาดผลผลิตเพิ่มขึ้นแม้พื้นที่ลดลง สะท้อน “ประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น”ส่วนการส่งออกข้าว 5 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.–พ.ค.) ลดลง 21% เหลือ 3.21 ล้านตัน จากปัจจัยผลผลิตโลกเพิ่ม และคู่ค้านำเข้าน้อยลง
"อย่างไรก็ดีมีข่าวดีสำหรับชาวนา คุณพิชัย สั่งจ่ายเงินช่วยเหลือนาปีรอบใหม่ ไร่ละ 2,000 บาท เตรียมรับฤดูเก็บเกี่ยวอย่างมั่นใจ! โดยมติที่ประชุม นบข.ด้านการตลาดนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารข้าวแห่งชาติต่อไป ซึ่งสภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมติดตามและประเมินสถานการณ์ข้าวอย่างใกล้ชิด เพื่อปกป้องผลประโยชน์เกษตรกรไทยอย่างเต็มที่ พร้อมเชิญชวนให้เกษตรกรไปขึ้นทะเบียนเกษตรกรด้วย " นายนัยฤทธิ์ กล่าวย้ำในตอนท้าย
กรมส่งเสริมเกษตรกร ขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ขั้นตอนดังนี้
1.ยื่นแบบ ทบก.01 พร้อมด้วยบัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาหลักฐานถือครองที่ดิน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูกหรือจุดนัดหมายที่สำนักงานเกษตรอำเภอนั้นๆ กำหนด
นอกจากนี้ท่านสามารถติดต่อผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) เพื่อทำเรื่องขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้
ส่วนเกษตรกรรายเดิมและใช้แปลงเดิม สามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ผ่าน แอปพลิเคชัน DOAE Farmbook โดยใช้รหัสทะเบียนเกษตรซึ่งระบุอยู่ในทะเบียนเกษตรกรลงชื่อเข้าใช้งานแอปฯ ทำได้ด้วยตัวเองผ่าน 6 ขั้นตอนดังนี้
1.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Farmbook ทั้งระบบ Android (คลิกที่นี่) และ iOS
2.กดเลือกเมนูแจ้งปลูก
3.เลือกแปลงปลูก ที่ต้องการแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
4.เลือกพืช ที่ต้องการแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
5.กรอกข้อมูล ต่าง ๆ ให้ครบถ้วน
6.กดบันทึก
เมื่อขึ้นทะเบียนเกษตรกร 2567/2568 ออนไลน์ เรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบสถานะทะเบียนเกษตรกรได้ด้วยตนเอง ดังนี้
1.กดเลือก “ตรวจสอบ” ในแถบตรวจสอบสถานะเกษตรกร
2.กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และ รหัสหลังบัตรประชาชน
3.จากนั้นกดเลือก “ตรวจสอบ”
หมายเหตุ: