กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมมือกับ EXIM Bank จัดทำโครงการ SMEs Pro-active DITP X EXIM Empower Financing ออกแพ็กเกจสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ส่งออก เพื่อลดผลกระทบทางการค้าและเร่งส่งออกไปต่างประเทศรวมถึงขยายตลาดใหม่ ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active ระยะเวลา 4 ปี
สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าโครงการ SMEs Pro-active ที่ผ่านคุณสมบัติแฃะได้รับการอนุมัติ จะได้วงเงินสนุบสนุนตามกิจกรรมที่เข้าร่วมวงเงินสูงสุด 200,000 บาท
สำหรับคุณสมบัติผู้ที่เข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active มีรายละเอียดดังนี้
1.เป็นนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 51
2. เป็นผู้ประกอบการซึ่งเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยตามพระราชบัญญัติส่งเสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกฏกระทรวงกำหนดลักษณะของ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2562(1) โดยพิจารณาจากเกณฑ์รายได้เป็นหลัก ซึ่งจะแสดงงบการเงินปีล่าสุดตามที่บริษัทนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
3. มีความประสงค์ดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
4.เป็นนิติบุคคลที่เป็นผู้ผลิตและ/หรือผู้ส่งออกสินค้าไทยที่มีประสบการณ์การส่งออก
5. เป็นสมาชิกขององค์กร ดังต่อไปนี้
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยสมาชิกของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ครอบคลุมสมาชิก 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
รวมถึงเป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สมาพันธ์ สมาคมการค้า หรือสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้าด้านสินค้า และได้ผ่านการรับรองจากสภานั้น
6.ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียในการประกอบธุรกิจ
7. กรณีนิติบุคคลที่ยังไม่เคยส่งออก แต่มีศักยภาพ สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้โดยต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติมดังนี้
เป็นผู้ประกอบการที่ผ่านการอบรมหลักสูตรของกรมฯ หรือ หลักสูตรที่โครงการฯ ให้การรับรอง ตามบัญชีรายชื่อหลักสูตรฝึกอบรมที่ได้รับการรับรอง (Qualified Training List: QTL) และ เป็นผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า หรือ กิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่มีการเจรจาธุรกิจ ซึ่งกรมฯ เป็นผู้จัดอย่างน้อย 1 ครั้ง เช่น
งานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย หรือ งานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ (Thailand Week) หรือ งานแสดงสินค้าสุดยอดแบรนด์ไทย (Top Thai Brands) หรือ คณะผู้แทนการค้าไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ เป็นต้น
ทั้งนี้วงเงินสนับสนุนและจำนวนสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการฯ ของผู้ประกอบการประเภทรายนิติบุคคลรวมแล้วต้องไม่เกินที่กำหนดไว้ ดังนี้
นอกจากนี้กรณีผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป จะได้รับสิทธิ์เพิ่ม 2 สิทธิ์/กลุ่มกิจกรรม จาก 6 สิทธิ์/กลุ่มกิจกรรม เป็น 8 สิทธิ์/กลุ่มกิจกรรม ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ
ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ วงเงินไม่เกิน 200,000 บาท มีสิทธิ์ขอรับสินเชื่อธนาคารเป็นเงินทุนหมุนเวียนอนุมัติสูงสุด 400,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี ผ่อนชำระนานสูงสุด 12 เดือน กรณีวงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน