สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว รายงานถึงภาพรวมตลาดข้าวจีนในปี 2568 ว่ายังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของปริมาณการผลิตและความต้องการบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มข้าวคุณภาพสูงและข้าวออร์แกนิก ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญของข้าวไทยในการรุกตลาดระดับกลางถึงพรีเมียมในจีน
จีนถือเป็นประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก มีบทบาทสำคัญต่อเสถียรภาพของตลาดข้าวโลก โดยในปี 2568 คาดว่าผลผลิตข้าวของจีนจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง แม้อัตราการเติบโตจะเริ่มชะลอตัว แต่ได้รับแรงสนับสนุนจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการเกษตร พื้นที่เพาะปลูกมาตรฐานสูง และการใช้พันธุ์ข้าวคุณภาพ
ด้านอุปสงค์ การบริโภคข้าวของประชาชนจีนยังเติบโตจากจำนวนประชากรและการขยายตัวของเมือง โดยผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัย และโภชนาการ ส่งผลให้ตลาดข้าวคุณภาพสูงและข้าวพิเศษ เช่น ข้าวน้ำตาลต่ำ ข้าวเสริมแร่ธาตุ ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน ตลาดข้าวบรรจุถุงในจีนก็เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจาก Frost & Sullivan ระบุว่าในปี 2567 ตลาดข้าวบรรจุมีมูลค่าถึง 137,500 ล้านหยวน หรือราว 646,250 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 4.2% ต่อปี และตลาดข้าวระดับกลาง-สูงมีอัตราเติบโตเฉลี่ยถึง 7% ต่อปี ขณะที่ตลาดข้าวออร์แกนิกคาดว่าจะเติบโตแตะ 67,210 ล้านบาทในปี 2568 และทะลุ 176,950 ล้านบาทในปี 2573
สคต.ชิงต่าว ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ไทยควรเร่งปรับตัวให้สอดรับกับแนวโน้มของผู้บริโภคจีน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพ ความปลอดภัย และสร้างการรับรู้ในตลาด พร้อมทั้งผลักดันการสร้างแบรนด์ข้าวไทยให้แข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับข้าวท้องถิ่นของจีน ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในประเทศ
ที่ผ่านมา หน่วยงานไทยในจีนได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยร่วมกับผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าหากสามารถรักษามาตรฐานสินค้า พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ข้าวไทยยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดจีนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก