ทางคู่บ้านไผ่-นครพนม 5.5 หมื่นล้าน สะดุด เวนคืนที่ดินดีเลย์

21 ธ.ค. 2568 | 01:30 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ธ.ค. 2568 | 04:21 น.

‘รถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนม’ มูลค่าการลงทุนกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท ส่อวุ่น หลังเจอปมปัญหาเวนคืนที่ดิน 8.7 พันแปลง 2 สัญญา ดีเลย์หนัก

KEY

POINTS

  • โครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท ประสบปัญหาล่าช้า โดยมีสาเหตุหลักจากการเวนคืนที่ดิน
  • อุปสรรคในการเวนคืนที่ดินเกิดจากกระบวนการออกเอกสารที่ล่าช้า ข้อมูลในสัญญาคลาดเคลื่อน และความซับซ้อนของสิทธิครอบครองที่ดิน
  • ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้การก่อสร้างทั้ง 2 สัญญาล่าช้ากว่าแผนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะสัญญาที่ 2 ที่ช้ากว่าแผนถึง 64% ทำให้ต้องมีการขยายระยะเวลาสัญญาออกไป

ปัจจุบัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่หลายเส้นทาง หนึ่งในนั้นคือ รถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ที่เชื่อมต่อ 6 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม ซึ่งจะเป็นส้นทางพัฒนาขนส่งทางรถไฟกับทางถนนมีความสมบูรณ์มากขึ้น รวมทั้งยังช่วยส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิต การแปรรูปสินค้าเกษตร และการค้าระหว่างประเทศ
 
อย่างไรก็ดีความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้าง 55,401 ล้านบาท ล่าสุด แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันการก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ทั้ง 2 สัญญามีความล่าช้าจากการเวนคืนที่ดินบริเวณสถานีบนพื้นที่แปลงใหญ่ เนื่องจากเป็นเส้นทางรถไฟสายใหม่ที่ต้องเวนคืนที่ดินตลอดเส้นทาง จำนวนกว่า 8,760 แปลง

 ทั้งนี้จากปัญหาอุปสรรคด้านการเวนคืนและจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินของโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ ที่มีการออกเอกสาร รูปแผนที่กระดาษบาง (ร.ว.9) และ สร.5 (ภ.บ.ท.5) ก ที่มีความล่าช้า ประกอบกับข้อมูลในเอกสารสัญญาคลาดเคลื่อน รวมถึงพื้นที่บางส่วนออก ร.ว.9 แล้ว แต่ยังไม่ทำสัญญานั้น

เบื้องต้นการรถไฟแห่งประเทศไทย มีแนวทางในการแก้ไข โดยได้ประชุมติดตามงานกับทีมรังวัดของสำนักมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัด (สมส.) กรมที่ดิน เพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสาร ร.ว.9 จากกรมที่ดินล่าช้า และที่ปรึกษาโครงการฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในเอกสารสัญญาที่คลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง
 
 

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีพื้นที่บางส่วนมีการออก ร.ว.9 แล้ว แต่พบว่ายังไม่ทำสัญญา เนื่องจากผู้ถูกเวนคืนมีที่ดินมากกว่า 1 แปลง จึงต้องรอให้ ร.ว.9 ออกครบทุกแปลงก่อนเรียกมาทำสัญญาในคราวเดียว นอกจากนี้หากผู้ถูกเวนคืนมีความไม่พอใจในราคาผู้ถูกเวนคืนสามารถยื่นอุทธรณ์ได้

 ขณะเดียวกันยังมีข้อติดขัดในเรื่องสิทธิครอบครองที่ดินในแต่ละประเภท ทั้งที่ดินมีโฉนด ที่ดินหน่วยงานราชการที่มีสัญญาเช่าใช้ประโยชน์ ทำให้เกิดความล่าช้า จากเดิมที่ต้องส่งมอบพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 โดยสามารถส่งมอบพื้นที่ได้จริงเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568

ที่ผ่านมาจึงมีการเสนอขอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.อนุมัติการขยายระยะเวลาก่อสร้าง โดยให้ผู้รับจ้างปรับแผนการก่อสร้างใหม่ในสัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก - สะพานมิตรภาพ 3

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างทั้ง 2 สัญญาของโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ที่ผ่านมา รฟท.ได้ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างแก่เอกชนทั้ง 2 ราย เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ดังนี้

สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่ - หนองพอก ระยะทาง 180 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 27,095 ล้านบาท คืบหน้า 47.081% ล่าช้ากว่าแผน 33.281% ส่งมอบพื้นที่แล้ว 3,933 แปลง คิดเป็น 90.620% โดยมีกิจการร่วมค้า เอเอส - ช.ทวี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ประกอบด้วย

บริษัท เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด, บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด, บริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง จำกัด, และ บริษัท กิจการร่วมค้า ทีบีทีซี จำกัด และ บริษัท เค.เอส.ร่วมค้า จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ซึ่งได้เริ่มงานวันที่ 16 มีนาคม 2566 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2570
 

สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก - สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง 175 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 28,306 ล้านบาทคืบหน้า 9.027% ล่าช้ากว่าแผน 64.678% ส่งมอบพื้นที่แล้ว 3,411 แปลง คิดเป็น 77.66% โดยมีกิจการร่วมค้ายูนิค ประกอบด้วย บริษัท ยูนิคเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท พี.ซีอีที จำกัด บริษัท ไทยพีค่อน และอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท วัชรขจร จำกัด เป็นผู้รับจ้าง
 
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา บอร์ด รฟท. ได้มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาปฏิบัติงานตามสัญญาในการดำเนินโครงการฯ ออกไปอีก 383 วัน นับถัดจากวันสิ้นสุดสัญญา คือ วันที่ 30 มีนาคม 2570 ไปสิ้นสุดวันที่ 16 เมษายน 2571 จากสัญญาเดิมที่เริ่มงานก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 30 มีนาคม 2570

 สำหรับโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม มี 15 สถานี แบ่งเป็น 9 สถานี ได้แก่ สถานีมุกดาหาร สถานีนครพนม สถานีเลิงนกทา สถานีธาตุพนม สถานีสะพานมิตรภาพ 3 สถานีนิคมคำสร้อย สถานีสะพานมิตรภาพ 2 สถานีหว้านใหญ่ และสถานีเรณูนคร

และมีป้ายหยุดรถ 6 แห่ง ได้แก่ ป้ายหยุดรถไฟโคกสว่าง ป้ายหยุดรถไฟห้องแซง ป้ายหยุดรถไฟบ้านป่งแดง ป้ายหยุดรถไฟบ้านดานคำ ป้ายหยุดรถไฟนาถ่อนและป้ายหยุดรถไฟบ้านกลาง

โดยมีจุดเริ่มต้นที่ กม.0+000 (กม. โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น ที่ 411+075) และสิ้นสุดโครงการที่ กม.354+783

เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,159 วันที่ 21 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568