ลุย ‘ไฮสปีดไทย-จีน เฟส 2’ ชงผู้ว่ารฟท.เคาะราคากลาง 3 สัญญาแรก 9.8 หมื่นล้าน

15 ธ.ค. 2568 | 01:00 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2568 | 01:50 น.

รฟท.เปิดแผนคืบหน้า ‘ไฮสปีดไทย-จีน เฟส 2’ จ่อชงผู้ว่าการรถไฟฯ เคาะราคากลาง นำร่อง 3 สัญญาแรก 9.8 หมื่นล้านบาท หลังครม.ไฟเขียวเดินหน้า ปักธงเปิดประมูลงานโยธาปี 69

KEY

POINTS

  • รฟท. เตรียมเสนอผู้ว่าการฯ อนุมัติราคากลาง 3 สัญญาแรกของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 (ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย)
  • 3 สัญญาแรกดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 9.8 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมงานโยธาช่วงนครราชสีมา-โนนสูง, โนนสูง-บัวลาย และบัวลาย-บ้านแฮด
  • โครงการระยะที่ 2 มีงานโยธาทั้งหมด 8 สัญญา โดยคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลงานโยธาได้ภายในปี 2569

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส) ที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย นั้น

ทั้งนี้หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการฯแล้ว โดยปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างการจัดทำขอบเขตของงานและราคากลาง รวมถึงการจัดทำรายละเอียดสัญญา

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้งานโยธาของโครงการฯ ทั้งหมด 8 สัญญา ได้ผ่านการอนุมัติเพื่อดำเนินการไปแล้ว 3 สัญญา ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 ช่วงนครราชสีมา-โนนสูง ระยะทาง 39 กม. วงเงิน 31,030 ล้านบาท, สัญญาที่ 2 ช่วงโนนสูง-บัวลาย ระยะทาง 54.9 กม. วงเงิน 33,920 ล้านบาทและสัญญาที่ 3 ช่วงบัวลาย-บ้านแฮด ระยะทาง 68.3 กม. วงเงิน 33,110 ล้านบาท 

ส่วนสัญญาที่เหลือจะทยอยจัดทำขอบเขตของงานและราคากลางและรายงานต่อรฟท.เพื่อดำเนินการจัดซื้อจ้างต่อไป คาดว่าจะเปิดประมูลงานโยธาได้ภายในปี 2569 
 

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ปัจจุบันรฟท.อยู่ระหว่างจัดทำราคากลางใน 3 สัญญาดังกล่าวที่ได้รับการอนุมัติแล้ว คาดว่าจะเสนอต่อผู้ว่ารฟท.เห็นชอบได้ภายในสัปดาห์นี้ 

ขณะเดียวกันตามแผนงานโยธายังเหลืออีก 5 สัญญาที่รอจัดทำขอบเขตของงานและราคากลางและทยอยเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาพิจารณ์ แบ่งเป็น 2 รอบ ดังนี้ รอบแรก ประกอบด้วย สัญญาที่ 4 ช่วงบ้านแฮด-น้ำพอง ระยะทาง 54.3 กม. วงเงิน 33,415 ล้านบาท

 สัญญาที่ 5 ช่วงน้ำพอง-อุดรธานี ระยะทาง 64.5 กม. วงเงิน 31,850 ล้านบาท และสัญญาที่ 6 ช่วงอุดรธานี-สระใคร ระยะทาง 60.4 กม. วงเงิน 33,490 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดประชาพิจารณ์ได้ภายในปลายเดือนมกราคม 2569 

แหล่งข่าวจากรฟท.กล่าวต่อว่า สัญญาที่ 7 ช่วงสระใคร-หนองคาย ระยะทาง 15.3 กม. วงเงิน 32,939 ล้านบาท และสัญญาที่ 8 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงิน 7,700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดประชาพิจารณ์ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 
 

ด้านแนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย มีระยะทางประมาณ 357 กม. จำนวน 5 สถานี ประกอบด้วย

1.สถานีบัวใหญ่ 2.สถานีบ้านไผ่ 3.สถานีขอนแก่น 4.สถานีอุดรธานี และ 5.สถานีหนองคาย ซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางจากไทยไปลาวและจีน 

สำหรับโครงการไฮสปีดไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย วงเงินลงทุน  341,351 ล้านบาท โดยตลอดเส้นทางทั้ง 2 ระยะ จะใช้ขบวนรถไฟรวมทั้งหมด 18 ขบวน ซึ่งเป็นมาตรฐานของจีน เบื้องต้นจะมีการสั่งซื้อขบวนรถไฟเพิ่ม 14 ขบวน จากเดิมที่มีขบวนรถไฟเพียง 4 ขบวน

นอกจากนี้รฟท.ได้คาดการณ์การผู้โดยสารและค่าโดยสารเมื่อเปิดให้บริการในปีแรกจะมีปริมาณผู้โดยสารตลอดสายช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ประมาณ 7,000 คนต่อวัน ซึ่งแบ่งการเปิดให้บริการออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้

ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการในระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา อยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 คนต่อวัน ในปีที่เปิดให้บริการ

อย่างไรก็ดีในปีแรกที่เปิดให้บริการจะมีปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการช่วงนครราชสีมา-หนองคาย (ตลอดสาย) กว่า 1,000 คนต่อวัน

ส่วนค่าโดยสารจะต้องมีการปรับปรุง เนื่องจากข้อมูลเดิมอิงจากผลการศึกษาเมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว ซึ่งจะมีการทบทวนตัวเลขผู้โดยสารและค่าโดยสารใหม่ในการศึกษาปัจจุบันอีกครั้ง