'รฟท.' จับมือ 2 หน่วยงาน เข็นประมูล 'ไฮสปีดไทย-จีน' เฟส 2

12 พ.ย. 2568 | 12:16 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ย. 2568 | 12:23 น.

'รฟท.' จับมือ วสท.-สทร. ลงนามบันทึก MOU ยาว 5 ปี ดันแผนประมูลไฮสปีดไทย-จีน เฟส 2 หนุนส่งเสริมการใช้วัสดุก่อสร้างผลิตในประเทศ

KEY

POINTS

  • รฟท. ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (สทร.) เพื่อขับเคลื่อนโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 (ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย)
  • ความร่วมมือมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการด้านวิชาการ การวิจัย และพัฒนามาตรฐานงานโยธาสำหรับรถไฟความเร็วสูง พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้วัสดุก่อสร้างที่ผลิตในประเทศ
  • โครงการมีระยะทาง 357.12 กม. วงเงินลงทุน 3.4 แสนล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลและเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2569 และเปิดให้บริการในปี 2574

นายอนันต์ เจนงามกุล รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับสถาบันวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (สทร.) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย

ขณะเดียวกันการลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานในการดำเนินกิจกรรมด้านวิชาการ การวิจัย การวางแผนและการพัฒนามาตรฐานงานโยธาระบบรถไฟความเร็วสูง

ทั้งนี้ตลอดจนข้อกำหนดการก่อสร้างงานโยธาเพิ่มเติม จากมาตรฐานรถไฟความเร็วสูงของจีนในงานก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย เพื่อให้การดำเนินงานมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และปลอดภัยสูงสุด

นอกจากนี้ยังมุ่งส่งเสริมการใช้วัสดุก่อสร้างที่ผลิตภายในประเทศ (Local Content) ให้ได้มากที่สุด ด้วยเทคนิคและอุปกรณ์ที่ผู้ประกอบการไทยสามารถดำเนินการได้อย่างมีคุณภาพ ตามมาตรฐานสากล

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนามเป็นต้นไป (11 พฤศจิกายน 2568 จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2573) สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย (ไฮสปีดไทย-จีน ระยะที่ 2) ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร งบประมาณลงทุน จำนวน 341,351.42 ล้านบาท

ทั้งนี้ในปัจจุบันการรถไฟฯ ได้เตรียมเสนอคณะกรรมการรถไฟฯ เพื่อขออนุมัติดำเนินการ และเตรียมการประกวดราคาต่อไป

'รฟท.' จับมือ 2 หน่วยงาน เข็นประมูล 'ไฮสปีดไทย-จีน' เฟส 2

คาดว่าจะสามารถออกเอกสารประกวดราคาเพื่อหาผู้ดำเนินโครงการและเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2569 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2574

อย่างไรก็ดีโครงการไฮสปีดไทย-จีน เฟส2 ประกอบด้วย 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย ซึ่งเป็นเส้นทางต่อเนื่อง ของช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา

'รฟท.' จับมือ 2 หน่วยงาน เข็นประมูล 'ไฮสปีดไทย-จีน' เฟส 2

โดยเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟฯ) ดำเนินการในส่วนของการจัดสรรกรรมสิทธิ์ที่ดินและชดเชยทรัพย์สินและการก่อสร้างงานโยธาภายในกรอบวงเงิน

นอกจากนี้การลงนามในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาควิชาชีพ วิศวกรรมไทย ในการยกระดับการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงของประเทศให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล พร้อมเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาคอาเซียนในอนาคตต่อไป