จับตา ธ.ค.นี้ 'พิพัฒน์' ชง ครม.เคาะวิ่งฟรี 'อุโมงค์กะทู้-ป่าตอง'

06 พ.ย. 2568 | 23:00 น.

'พิพัฒน์' ลุยต่อแผนเดิมสร้าง 'ทางด่วนกะทู้–ป่าตอง' 1.67 หมื่นล้าน เมินโอนโปรเจ็กต์ให้ทางหลวงดูแล จ่อชงครม.ไฟเขียว ธ.ค.นี้ วิ่งฟรีอุโมงค์ป่าตองฟรี 1.8 กม. ปักธงเปิดประมูลต้นปี 69

KEY

POINTS

  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.คมนาคม เตรียมเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเดือนธันวาคมนี้ เพื่ออนุมัติให้ใช้อุโมงค์กะทู้-ป่าตองได้โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง
  • นโยบายวิ่งฟรีจะใช้เฉพาะช่วงอุโมงค์ ระยะทาง 1.85 กิโลเมตร เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่วนทางยกระดับช่วงอื่นยังเก็บค่าผ่านทางตามปกติ
  • โครงการจะยังคงดำเนินการตามแผนเดิมของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยกระทรวงคมนาคมจะหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อหาแหล่งเงินมาอุดหนุนการยกเว้นค่าผ่านทาง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการทางพิเศษระยะที่ 1 ช่วงกะทู้–ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร (กม.) งบประมาณรวม 16,757 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 10,965 ล้านบาท และค่าเวนคืน 5,792 ล้านบาท

ทั้งนี้เบื้องต้นจากการหารือร่วมกับปลัดกระทรวงคมนาคม และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ข้อสรุปว่า จะดำเนินการตามแผนเดิมของ กทพ. ทุกขั้นตอน พร้อมทั้งมีนโยบายไม่เก็บค่าผ่านทางช่วงอุโมงค์กะทู้–ป่าตอง ระยะทางประมาณ 1.85 กม.

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ไปหารือร่วมกับ กทพ. และกระทรวงการคลัง เพื่อหาแหล่งเงินมาอุดหนุนการยกเว้นค่าผ่านทางช่วงอุโมงค์ดังกล่าว รวมถึงพิจารณาว่า สามารถดำเนินการได้หรือไม่

ทั้งนี้เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่วนทางยกระดับในระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่–เกาะแก้ว–กะทู้ ระยะทาง 30.6 กม. จะยังคงเก็บค่าผ่านทางตามปกติ เนื่องจากผู้ใช้ถนนสามารถเลือกได้ว่าจะขึ้นทางยกระดับหรือใช้ถนนปกติ

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ตามขั้นตอนจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. พิจารณาการยกเว้นค่าผ่านทางดังกล่าว ภายใน พ.ย. นี้ ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายใน ธ.ค. 2568 เพื่อทบทวนมติ ครม. เฉพาะเรื่องการเก็บค่าผ่านทาง

อย่างไรก็ดีตามเป้าหมายเร่งการประกวดราคาภายในช่วงต้นปี 2569 และเริ่มก่อสร้างภายในปี 2569 ซึ่งเป็นไปตามแผนเดิม คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน มี.ค. 2573 และจะเปิดใช้อย่างเป็นทางการได้ใน เม.ย. 2573

“ขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการชาวภูเก็ต มั่นใจว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นแน่นอน ไม่มีการหยุดหรือชะลอใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นไปตามแผน เพื่อให้การเดินทางของประชาชนสะดวก“ นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่ ส่วนประเด็นที่มีนโยบายปรับรูปแบบโครงการใหม่ โดยปรับขนาดอุโมงค์จากเดิมที่ออกแบบไว้เส้นผ่านศูนย์กลาง 17 เมตร เหลือ 10 เมตร และโอนความรับผิดชอบมาอยู่ภายใต้กรมทางหลวง (ทล.) ดำเนินนั้น

สำหรับเรื่องนี้มีเจตนาดี เพื่อให้บริการฟรีในช่วงอุโมงค์ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน แต่เมื่อหากโอนให้ ทล. ดำเนินการนั้น อาจจะกระทบต่อแผนการดำเนินโครงการฯ มีความล่าช้า

รวมถึงจะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้และรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ใหม่ จึงกลับมาดำเนินการตามแผนเดิม และยังคงนโยบายไม่เก็บค่าผ่านทาง