KEY
POINTS
ปัจจุบัน “การท่าเรือแห่งประเทศไทย” หรือกทท.ยังคงเดินหน้าทบทวนศึกษาแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตยอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมามีการศึกษาโครงการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2562 แล้ว ทำให้แผนไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
แหล่งข่าวจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ความคืบหน้าแผนศึกษาพัฒนาโครงการท่าเรือกรุงเทพฯหรือท่าเรือคลองเตยบนพื้นที่ 2,353 ไร่ นั้น
ขณะนี้การทบทวนผลการศึกษาโครงการฯ ยังคงเป็นไปตามแผนของกทท. แต่ปัจจุบันต้องรอนโยบายจากทางรัฐบาลชุดใหม่ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ขณะที่ประเด็นการนำร่องพัฒนาพื้นที่หน้าท่า 520 ไร่ ซึ่งเคยเกิดขึ้นภายใต้แผนของ 4 คณะ ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานนั้น
ปัจจุบันได้ยุติคณะทำงานชุดดังกล่าว เนื่องจากมีการยุบสภาและมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ส่งผลให้ตำแหน่งประธานและเลขาฯ ของคณะทำงานไม่สามารถดำเนินการต่อได้
“หากรัฐบาลใหม่ยังคงเดินหน้าต่อและไม่ได้มีการสั่งการเป็นอย่างอื่น เชื่อว่าแผนพัฒนาพื้นที่โดยรวมจะกลับมาดำเนินการต่อตามเดิม โดยแผนพัฒนาโครงการนี้กทท.มุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่ 3 โซน ประกอบด้วย พื้นที่ Smart Port, Smart Community, และ Smart City” แหล่งข่าวจากกทท.กล่าว
ส่วนขั้นตอนการดำเนินงานภายในของ กทท. ที่ผ่านมาได้มีการเสนอร่างแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตยเข้าสู่คณะกรรมการ (บอร์ด)กลั่นกรองของกทท.พิจารณาแล้ว
แต่ติดปัญหาไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคณะกรรมการ กทท.ได้ยื่นหนังสือลาออก ทำให้ต้องรอการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ก่อนนำเรื่องเข้าพิจารณาในคณะกรรมการกทท.พิจารณาภายในปลายปีนี้
สำหรับแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตย เบื้องต้น กทท.ได้ดำเนินการศึกษา (Study) เสร็จแล้ว ซึ่งมีความพร้อมที่จะดำเนินการขออนุมัติงบประมาณในปีงบประมาณ 2570 เพื่อก่อสร้างโครงการสำคัญ จำนวน 3 โครงการ วงเงินรวม 19,500 ล้านบาท ดังนี้
1.โครงการพัฒนาท่าเรืออัตโนมัติหรือท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) วงเงิน 10,000 ล้านบาท
2.โครงการศูนย์กระจายสินค้า วงเงิน 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) วงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท
อีกส่วนกทท. จะดำเนินการก่อสร้างงานเองประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งต้องขอรับจัดสรรงบประมาณปี 2570 โดยเป็นการออกแบบรายละเอียดความเหมาะสมของโครงการฯ (Detail Design) และเปิดรับฟังความเห็นของประชาชน (Public Hearing) ด้วย
3.โครงการทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพ และทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) ระยะทาง 2.25 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 4,500 ล้านบาท
ที่ผ่านมาได้ดำเนินการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และดำเนินการศึกษาเสร็จแล้ว
แหล่งข่าวจากกทท.กล่าวต่อว่า ขณะที่ความเป็นไปได้ในการการจัดตั้งการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ที่มีการเชื่อมโยงถึงพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพฯ หรือท่าเรือคลองเตย ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายสำหรับการพัฒนาโครงการนั้น
“ในเรื่องนี้จะไปต่อได้ค่อนข้างยากแล้ว เพราะเมื่อพูดถึงเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ คนมักจะมองว่าเป็นบ่อนหรือกาสิโน อีกทั้งยังมีแรงต่อต้านจากรัฐบาลหรือชุมชนในพื้นที่ แต่การพัฒนาพื้นที่เมืองใหม่ ที่มีรูปแบบเป็นการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สามารถดำเนินการต่อไปได้” แหล่งข่าวจากกทท.กล่าว
นอกจากนี้แผนพัฒนาท่าเรือคลองเตยในส่วนพื้นที่ Smart City ต้องรอความชัดเจนจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทยฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ก่อน
โดยที่ผ่านมาได้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว ซึ่ง พ.ร.บ. ดังกล่าวจะเปิดทางให้กทท.สามารถทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้เยอะ
อย่างไรก็ดีหากร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ได้ทันเวลา เบื้องต้น กทท. จะมีการพิจารณาตั้งบริษัทขึ้นมาบริหารจัดการ แต่หากมีผลบังคับใช้กฎหมายไม่ทัน คาดว่ารูปแบบการลงทุนอาจถูกจำกัดเป็นการเช่าพื้นที่แทน
โดยคาดว่าผลการศึกษาที่ชัดเจนของ Smart City น่าจะเห็นเป็นรูปธรรมได้ในช่วงปลายปี 2569
สำหรับแผนงานพัฒนาโครงการต่างๆ ในพื้นที่ท่าเรือคลองเตย เนื้อที่ 943 ไร่ และแผนพัฒนาพื้นที่ภายนอกเขตรั้วศุลกากรท่าเรือกรุงเทพเนื้อที่ 1,410 ไร่ รวมเป็น 2,353 ไร่ แบ่งเป็น 3 โซน ดังนี้
โซน 1 พัฒนาพื้นที่ด้านการค้า (commercial zone) จะมีอาคารศูนย์ธุรกิจพาณิชยนาวี พื้นที่ 17 ไร่
ด้านข้างอาคารที่ทำการปัจจุบัน ภายในอาคารประกอบด้วย สำนักงาน ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์แสดงสินค้า นิทรรศการ ศูนย์การประชุม พื้นที่ค้าปลีกและธนาคาร
ด้านศูนย์โลจิสติกส์และกระจายสินค้า พื้นที่ 54 ไร่ ประกอบด้วย อาคารคลังสินค้าแนวสูงและแนวราบ
สถานีพักรถบรรทุกสินค้า รวมถึงมีอาคารสำนักงาน 126 ไร่ (ไม่รวมตลาดคลองเตย) อยู่ในทำเลศักยภาพพัฒนากิจกรรมที่มีความหลากหลาย และสนับสนุนกิจการของท่าเรือและชุมชนโดยรอบ
ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์กลางการค้าและพาณิชยกรรมนำเข้า-ส่งออก อาคารพาณิชย์ สำนักงาน สถาบันการเงิน ฯลฯ
ขณะเดียวกันยังมีศูนย์การประชุมและศูนย์การค้าธุรกิจทันสมัยครบวงจร พื้นที่ 15 ไร่ เช่น ศูนย์แสดงสินค้ากิจการท่าเรือ
โดยนำที่ดินบริเวณโรงฟอกหนังกระทรวงกลาโหม 123 ไร่ พัฒนาสมาร์ทคอมมิวนิตี้ ก่อสร้างที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่รองรับชุมชนและหน่วยงานราชการต่าง ๆ
นอกจากนี้โซน 2 พัฒนาธุรกิจหลัก การให้บริการท่าเรือกรุงเทพ (core business zone) โดยปรับพื้นที่จากปัจจุบัน พื้นที่ 943 ไร่ เหลือ 534 ไร่ พัฒนาสถานีบรรจุสินค้าเพื่อส่งออกและบูรณาการพื้นที่หลังท่าเป็นคลังสินค้าขาเข้าเขตปลอดภาษี
พื้นที่ปฏิบัติการสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าต่างๆ เช่น คลังสินค้าห้องเย็น ฮาลาล ลานบริหารจัดการรถบรรทุก และจุดบริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ
ส่วนท่าเทียบเรือตู้สินค้าบริเวณเขื่อนตะวันตกติดคลองพระโขนง จะพัฒนาเป็นท่าเทียบเรือแห่งใหม่ลานกองเก็บตู้สินค้าและอาคารสำนักงาน ปรับปรุงท่าเทียบเรือตู้สินค้าฝั่งตะวันออกให้ทันสมัยรองรับเรือลำเลียงชายฝั่ง
รวมถึงยังมีโครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อท่าเรือและทางด่วนสายบางนา-อาจณรงค์ เป็นการระบายรถบรรทุกขาออกที่มุ่งหน้าไปยังบางนา-ตราดและขาเข้ามายังท่าเรือกรุงเทพ
ด้านโซน 3 พื้นที่พัฒนาเมืองท่าเรือกรุงเทพ (Bangkok modern city) อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เน้นการพัฒนาเมืองธุรกิจขนาดใหญ่ที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศ
ศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดจนเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์สาธารณะ รวมถึงพัฒนาอาคารมิกซ์ยูสครบวงจร ช้อปปิ้งมอลล์ ที่จอดรถและโรงแรม
อย่างไรก็ดีกทท.ยังมีแผนพัฒนาโครงการพื้นที่พักอาศัยเพื่อชุมชนในแนวสูงของชุมชนคลองเตย (Smart Community)
อยู่ในบริเวณองค์การฟอกหนังเดิมถนนริมทางรถไฟสายเก่ามีพื้นที่ 58 ไร่ เป็นอาคารสูง 25 ชั้น 4 อาคารๆ ละ 1,536 ยูนิต รวม 6,144 ยูนิต ขนาด 33 ตรม/ห้องมีอาคารจอดรถส่วนกลาง และพื้นที่สีเขียว 40%
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,144 วันที่ 30 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568