‘พิพัฒน์’ ลุยฟ้องผู้บุกรุก ‘เขากระโดง’ 995 แปลง สานต่อ ‘แลนด์บริดจ์’ ดึงต่างชาติลงทุน

30 ก.ย. 2568 | 10:11 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ย. 2568 | 10:16 น.

‘พิพัฒน์’ แจงสภาฯ ยืนกรานสั่ง รฟท.ฟ้องผู้บุกรุก ‘ที่ดินเขากระโดง’ 995 แปลง ย้ำ ‘แลนด์บริดจ์’ ดึงต่างชาติลงทุนเอง ปิดช่องนักลงทุนไทย

KEY

POINTS

  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ยืนยันว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กำลังเดินหน้าฟ้องผู้บุกรุกที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 995 แปลง
  • สานต่อโครงการแลนด์บริดจ์เชื่อมทะเลอ่าวไทย (ชุมพร) และอันดามัน (ระนอง) เพื่อลดระยะเวลาขนส่งสินค้าและลดความแออัดที่ช่องแคบมะละกา
  • รัฐบาลจะไม่ลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ แต่จะเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนและบริหารจัดการท่าเรือ

วันนี้ (30 กันยายน 2568) เวลา 16.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ชี้แจงต่อสภาภายหลังมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า กรณีที่มีข้อพิพาทที่ดินเขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดินนั้น

‘พิพัฒน์’ ลุยฟ้องผู้บุกรุก ‘เขากระโดง’ 995 แปลง สานต่อ ‘แลนด์บริดจ์’ ดึงต่างชาติลงทุน

ทั้งนี้ยืนยันว่าในปัจจุบัน รฟท.เดินหน้าฟ้องผู้บุกรุกที่มีเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ 5,083 ไร่  จำนวน 995 แปลง โดยจะดำเนินการฟ้องทีละรายจนครบตามกำหนด 
 

ส่วนการสานต่อโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) ที่มีการเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึก 2 ฝั่ง (ชุมพรและระนอง) นั้น ปัจจุบันได้มีการศึกษาถึงผลดีและผลเสียของโครงการฯแล้ว ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางขนส่งสินค้าได้ 4-5 วัน 

ขณะเดียวกันโครงการฯนี้จะช่วยลดความแออัดบริเวณช่องแคบมะละกา ที่ปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าหนาแน่น ซึ่งจะต้องไปแวะที่ท่าเรือสิงคโปร์ก่อนส่งสินค้าไปยังปลายทาง 
 

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่มีข้อกังวลถึงโครงการแลนด์บริดจ์จะกระทบต่อสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงนั้น

ทางกระทรวงให้ความสำคัญถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะทะเลฝั่งอันดามันมีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องดูแลในส่วนนี้ให้ดีที่สุด

“โครงการนี้มีระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร โดยยืนยันว่ารัฐจะไม่ลงทุน แต่จะเชิญนักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนกับเราเพื่อเป็นผู้บริหารท่าเรือ ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นท่าเรือเดียวที่สามารถให้บริการได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน เชื่อว่าความรู้และความเชี่ยวชาญของนักลงทุนไทยสู้นักลงทุนต่างชาติไม่ได้ หากใครมีความรู้ความเชี่ยวชาญเราก็พร้อมรับฟังความคิดเห็น” นายพิพัฒน์ กล่าว