‘พิพัฒน์’ สานต่อบิ๊กโปรเจ็กต์ ‘แลนด์บริดจ์’ 9.97 แสนล้าน

25 ก.ย. 2568 | 08:44 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2568 | 08:51 น.

‘พิพัฒน์’ ลุยต่อโปรเจ็กต์ ‘แลนด์บริดจ์’ 9.97 แสนล้านบาท หวังเชื่อมต่อการลงทุนเศรษฐกิจทางน้ำ ฟากสนข.จ่อเปิดประมูลดึงเอกชนร่วมทุน PPP ภายในปี 69 ตั้งเป้าปีแรกเปิดให้บริการปี 73

KEY

POINTS

  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.คมนาคม ยืนยันเดินหน้าผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์เชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน มูลค่า 9.97 แสนล้านบาท
  • คาดว่าจะเปิดประมูลให้เอกชนร่วมลงทุนและเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2569 และตั้งเป้าเปิดให้บริการเฟสแรกในปี 2573
  • โครงการจะใช้รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP Net Cost) สัญญาสัมปทาน 50 ปี โดยให้เอกชนรายเดียวเป็นผู้รับสัมปทาน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากเข้ากระทรวงคมนาคมวันแรก ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมมีแผนผลักดันโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) มูลค่ากว่า 9.97 แสนล้านบาท ถึงแม้ว่ามีทั้งผู้ที่สนับสนุนและคัดค้านโครงการนี้ แต่ยังยืนยันจะผลักดันต่อเนื่อง  

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาสนข.ได้ทำการจัดสัมมนาสรุปผลการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ทั้งหมด 3 ครั้ง โดยมีการจัดไปแล้ว 2 ครั้งที่จังหวัดระนองเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 และที่จังหวัดชุมพรเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568
 

ทั้งนี้ตามแผนหลังจากสรุปผลการศึกษาในครั้งนี้จะใช้เวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีนี้ ในระหว่างที่ร่างพ.ร.บ.SEC ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากสภาฯ 

นายปัญญา กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันสนข.อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารเพื่อประกาศประกวดราคา (ทีโออาร์) ใช้เวลาดำเนินการ 5-6 เดือน คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลให้เอกชนร่วมลงทุนและเริ่มก่อสร้างภายในปี 69 คาดว่าจะเปิดให้บริการเฟสแรกได้ภายในปี 73

"ส่วนการปรับลดมูลค่าการลงทุนของโครงการจากเดิมที่มีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านบาทนั้น เพื่อสอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้บริษัทที่ปรึกษามีการปรับระยะเวลาการก่อสร้างในการลงทุนใหม่ เหลือเพียง 3 ระยะ" นายปัญญา กล่าว

ขณะเดียวกันจากการศึกษาในครั้งนี้ยังใกล้เคียงกับบริษัทที่ปรึษาต่างชาติ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่ได้รับการยอมรับ ด้านการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) จะใช้รูปแบบ PPP Net Cost สัญญาสัมปทาน 50 ปี โดยการเปิดประมูลจะให้เอกชนรายเดียวเป็นผู้รับสัมปทานในการก่อสร้าง และบริหารงานพร้อมกันทั้งโครงการในสัญญาเดียว

อย่างไรก็ดีเอกชนผู้เข้ามาลงทุนจะต้องมีประสบการณ์ในการบริหารท่าเรือ และสายการเดินเรือ เพื่อดึงสินค้าเข้ามาใช้บริการท่าเรือ และมีความพร้อมด้านเงินทุนเพื่อลงทุนในโครงการ