‘สุริยะ-มนพร’ ฝากรมว.คมนาคมคนใหม่ สานต่อ พระราม2 ห่วงรถไฟฟ้า 20 บาทตลาดสายไม่ถูกสานต่อ

10 ก.ย. 2568 | 06:14 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2568 | 07:44 น.

‘สุริยะ-มนพร’ อำลากระทรวงคมนาคม ดันผลงาน 2 ปี แก้รถติด-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ฟากข้าราชการ-ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แห่ให้กำลังใจพร้อมดอกไม้หนาแน่น หวั่นรัฐบาลใหม่เบรกรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ส่งไม้ต่อลุยโปรเจ็กต์พระราม 2 จบสิ้นปีนี้

KEY

POINTS

  • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนางมนพร เจริญศรี อำลาตำแหน่งที่กระทรวงคมนาคม พร้อมสรุปผลงานเด่นในรอบเกือบ 2 ปี เช่น การพัฒนาระบบราง และการแก้ปัญหาความแออัดในสนามบินสุวรรณภูมิ
  • นายสุริยะ แสดงความกังวลต่อนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่าอาจไม่ได้รับการสานต่อจากรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารชุดใหม่
  • นางมนพร ชี้แจงว่านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท มีความคืบหน้าไปมาก โดยร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ ได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรและอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ก.ย. 68) เวลา 10.00 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมนางมนพร เจริญศรี รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กราบลาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง และอำลาตำแหน่ง ณ กระทรวงคมนาคม

ทั้งนี้ในบรรยากาศพบว่ามีข้าราชการในกระทรวงคมนาคมและผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมถือดอกไม้ให้กำลังใจอย่างหนาแน่น จากนั้นได้มีการให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวในกระทรวงคมนาคม

‘สุริยะ-มนพร’ ฝากรมว.คมนาคมคนใหม่ สานต่อ พระราม2  ห่วงรถไฟฟ้า 20 บาทตลาดสายไม่ถูกสานต่อ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ได้เข้ามาอำลงตำแหน่ง ภายหลังจากดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเกือบ 2 ปี ที่ผ่านมาผมและรัฐมนตรีช่วยฯได้ทุมเทความรู้ความสามารถในการทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้กระทรวงคมนาคมเป็นที่พึ่งของประชาชนในหลายๆเรื่องจนประสบความสำเร็จ
 

ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้เร่งวางยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบราง ที่วางเป้าหมายไว้เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์จากการขนส่งทางบกที่มีราคาสูงมาสู่ระบบราง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน 

“จากนี้เตรียมส่งต่อให้กับรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อเดินหน้าโครงการต่อไป โดยเฉพาะโครงการถนนพระราม 2 (M82) ซึ่งเป็นทางยกระดับเพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัด และเป็นเส้นทางหลักมุ่งสู่ภาคใต้ โดยท่านได้กำชับให้เร่งผลักดันให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ตามกำหนดเวลา พร้อมฝากปลัดกระทรวงฯ ให้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการติดตามงานอย่างใกล้ชิด” นายสุริยะ กล่าว

‘สุริยะ-มนพร’ ฝากรมว.คมนาคมคนใหม่ สานต่อ พระราม2  ห่วงรถไฟฟ้า 20 บาทตลาดสายไม่ถูกสานต่อ

ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาได้มีการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนเผชิญหน้าในชีวิตประจำวันอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การแก้ปัญหาความแออัดที่สนามบินสุวรรณภูมิจนปัจจุบันได้มีการติดตั้งเครื่องอำนวยความสะดวกและประสานงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อเพิ่มช่องทางเข้า-ออก ให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ด้านนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ยอมรับว่าไม่มั่นใจว่ารัฐมนตรีคนใหม่จะดำเนินโครงการนี้ต่อไปอย่างไร เนื่องจากเป็นอำนาจการตัดสินใจของผู้บริหารชุดใหม่ คงต้องรอดูภาพรวมอีกครั้ง 
 

นางมนพร เจริญศรี รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ถือเป็นนโยบายหลักของกระทรวงและได้ดำเนินการไปไกลมากแล้ว โดยเฉพาะการผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. การขนส่งทางราง, ร่าง พ.ร.บ. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และร่าง พ.ร.บ. ตั๋วร่วม 

“กฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ซึ่งผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ของวุฒิสภา เปรียบเสมือนมวยยก 4 ที่เหลือแค่มวยยก 5 หากกฎหมายเหล่านี้ผ่านก็จะสามารถเป็นเครื่องมือให้รัฐบาลชุดใหม่นำไปใช้สานต่อโครงการได้อย่างไร้รอยต่อ” นางมนพร กล่าว 

‘สุริยะ-มนพร’ ฝากรมว.คมนาคมคนใหม่ สานต่อ พระราม2  ห่วงรถไฟฟ้า 20 บาทตลาดสายไม่ถูกสานต่อ

นอกจากนี้ยังมีกฎหมายสำคัญ ที่ถูกผลักดันอย่างต่อเนื่องเพื่อปลดล็อกปัญหาที่สะสมมานาน เช่น ร่าง พ.ร.บ. การท่าเรือ ที่ไม่ได้มีการแก้ไขมานานกว่า 70 ปี ซึ่งผ่านการพิจารณาหลักการของวุฒิสภาแล้ว จากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาจากวุฒิสภาในวาระ 2 และวาระ 3 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 กันยายนนี้ 

‘สุริยะ-มนพร’ ฝากรมว.คมนาคมคนใหม่ สานต่อ พระราม2  ห่วงรถไฟฟ้า 20 บาทตลาดสายไม่ถูกสานต่อ

อย่างไรก็ดีจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่จะช่วยเดินหน้าโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดก่อนและกำลังเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในลำดับต่อไป