รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน ครอบคลุมท้องที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) กว่า 11 เขต เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ
สำหรับสาระสำคัญของร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชนในท้องที่แขวงตลิ่งชัน แขวงฉิมพลี แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน แขวงบางขุนนนท์ แขวงบางขุนศรี แขวงศิริราช แขวงบ้านช่างหล่อ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
แขวงชนะสงคราม แขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศ แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร แขวงวัดโสมนัส แขวงบ้านบาตร แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย แขวงสี่แยกมหานาค แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต แขวงทุ่งพญาไท แขวงถนนเพชรบุรี แขวงถนนพญาไท แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี
แขวงปทุมวัน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท แขวงดินแดง แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง และแขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ เป็นโครงการจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคมนาคม ลดความสูญเสียพลังงานน้ำมันและผลกระทบสิ่งแวดล้อม พัฒนาและยกระดับ คุณภาพชีวิตของประชาชน
โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์สำหรับโครงการนี้ในกรอบวงเงิน จำนวน 14,661 ล้านบาท มีระยะทางประมาณ 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี เป็นโครงสร้างใต้ดินตลอดสาย ในแนวเขตทางประกอบด้วยที่ดินประมาณ 458 แปลง และสิ่งปลูกสร้างประมาณ 389 หลัง/รายการ
ที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ดำเนินการสำรวจอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเขตทางแล้ว มีอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องกำหนดลักษณะภาระในอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 88 แปลง
รฟท. ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชน พ.ศ. 2540 ได้ ซึ่งตามแผนดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดย รฟม. ต้องเร่งส่งมอบพื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการฯ ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยมีกำหนดการส่งมอบพื้นที่เอกชนแรกในเดือนธันวาคม 2568
หากการส่งมอบพื้นที่มีความล่าช้าออกไปจะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลประกอบกับเมื่อได้มีประกาศแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะมีอำนาจเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์ได้แต่ต้องมีหนังสือแจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้นทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน และพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องจัดให้มีการจ่ายหรือวางเงิน ค่าทดแทนก่อน
จึงเห็นควรต้องมีการประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวภายในเดือนกันยายน 2568 เพื่อให้ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ ให้เป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า ครม.สามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวได้