“รฟม.” สแกนแผนคืบหน้า “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” ลุยจัดหารถ 30 ขบวนให้บริการ

06 ส.ค. 2568 | 02:00 น.

“รฟม.” กางแผนคืบหน้าสร้างงานโยธา “สายสีส้มตะวันตก” เผยติดหล่มจ่ายค่าชดเชยเวนคืนที่ดินชาวบ้านในพื้นที่ เร่งปิดจ็อบภายในปีหน้า ลุยจัดหารถ 30 ขบวน นำร่องเปิดให้บริการสายสีส้มตะวันออกปี 70 มั่นใจตลอดสายพร้อมเปิดในปี 73

KEY

POINTS

  • รฟม. อยู่ในขั้นตอนการออกแบบและผลิตรถไฟฟ้า โดยคาดว่าจะทยอยจัดหาขบวนรถประมาณ 30 ขบวนให้แล้วเสร็จภายในปี 2569
  • มีแผนจะนำร่องเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) ก่อนภายในปี 2570 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิม
  • ความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธาส่วนตะวันตก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์) คืบหน้าแล้วกว่า 10% เร็วกว่าแผนที่วางไว้
  • คาดว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มจะสามารถเปิดให้บริการได้ตลอดทั้งเส้นทางภายในปี 2573
  • การก่อสร้างยังคงติดปัญหาการจ่ายค่าชดเชยเวนคืนที่ดิน ซึ่ง รฟม. ตั้งเป้าจะส่งมอบพื้นที่ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 2569

“โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม” 1 ในโครงการรถไฟฟ้าสายหลักที่มีความสำคัญในการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯ แต่ไม่สามารถก่อสร้างได้ จากประเด็นการฟ้องร้องของเอกชน ส่งผลให้เกิดเป็นคดีความที่ค้างคารอให้ศาลปกครองพิพากษามานานกว่า 3 ปี แต่ปัจจุบันโครงการนี้ได้ข้อสรุปจนเริ่มเดินหน้าการก่อสร้างตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 

ที่ผ่านมาบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้เริ่มเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจสาธารณูปโภค และเตรียมเริ่มงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งตามแผนได้ทยอยดำเนินการก่อสร้าง 5 สถานีแรก ประกอบด้วย สถานีบางขุนนนท์ สถานีศิริราช สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานียมราช และสถานีประตูน้ำ

นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า คืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ นั้น หลังจากที่รฟม.ได้มีการลงนามเซ็นสัญญากับเอกชนผู้ชนะการประมูล คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แล้วเสร็จ ขณะนี้เอกชนได้เริ่มเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างงานโยธาสายตะวันตกแล้ว โดยภาพรวมมีความคืบหน้ากว่า 10% ซึ่งเร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้ประมาณ 1% คาดว่าตามแผนจะสามารถเปิดให้บริการส่วนตะวันตกภายในปี 2573 

อย่างไรก็ดีจากการก่อสร้างยังไม่พบปัญหาในการก่อสร้าง แต่ปัจจุบันติดปัญหาด้านงานเวนคืนที่ดินบริเวณชุมชนประชาสงเคราะห์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาตัวเลขค่าชดเชยที่ดินกับชาวบ้าน ส่วนพื้นที่การเวนคืนที่ดินบริเวณสำนักงานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะมีการปรับแบบก่อสร้างให้กระทบกับพื้นที่น้อยที่สุด 
 

สำหรับการเวนคืนที่ดินในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ปัจจุบันคืบหน้ากว่า 60-70% โดยรฟม. อยู่ระหว่างการจ่ายค่าชดเชยการเวนคืน ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบพื้นที่เวนคืนที่ดินให้แก่เอกชนแล้วเสร็จภายในปลายปี 2569  

นายกาจผจญ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกับกรมศิลปากรเมื่อสัปดาห์ก่อนถึงประเด็นการขุดพื้นที่โบราณคดีบริเวณด้านหน้าโรงละครแห่งชาติที่จะต้องมีการปรับแบบสถานี โดยวัตถุโบราณที่พบเจอจะมีการเก็บรักษาและนำมาจัดแสดงไว้ภายในสถานีเหมือนลักษณะนำมาจัดวางในพิพิธภัณฑ์ 

ขณะเดียวกันยังมีประเด็นถึงการปรับแบบสถานีศิริราชที่พบเจอโครงกระดูก โดยรฟม.ได้มีการประชุมร่วมกับกรมการขนส่งทางราง (ขร.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และโรงพยาบาลศิริราช ถึงการปรับแบบสถานีที่มีการขยับออกไป ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟสายสีแดง ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายาของรฟท. ซึ่งรฟม.ยืนยันว่าสามารถดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มได้ โดยไม่ต้องรอการปรับแบบสถานีศิริราชในโครงการรถไฟสายสีแดงของรฟท.

ส่วนการจัดหาขบวนรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น ขณะนี้ได้ข้อสรุปในการออกแบบรถแล้ว โดยอยู่ในขั้นตอนการออกแบบและผลิตรถ รวมถึงการทยอยทดสอบชิ้นส่วนต่างๆและทดสอบตัวรถจริงที่ประเทศจีนและตุรกีก่อนส่งมอบรถมายังที่แหลมฉบัง คาดว่าจะทยอยจัดหาขบวนรถประมาณ 30 ขบวน ภายในปี 2569  

นอกจากนี้ตามแผนจะเริ่มติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและงานระบบรถไฟฟ้า(M&E) ภายในกลางปี 2569 จากนั้นจะเริ่มทดสอบระบบฯและขบวนรถภายในเดือนตุลาคม 2569 คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการสายตะวันออกได้ก่อนภายในปี 2570 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2571

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 35.9 กิโลเมตร (กม.) เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน 27 กิโลเมตร และโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ 8.9 กิโลเมตร จำนวน 28 สถานี แบ่งเป็นสถานีใต้ดิน 21 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี 

“รฟม.” สแกนแผนคืบหน้า “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” ลุยจัดหารถ 30 ขบวนให้บริการ

ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตลอดแนวเส้นทางเริ่มต้นที่สถานีบางขุนนนท์ ซึ่งเป็นอุโมงค์ใต้ดินวิ่งไปตามแนวทางรถไฟเดิมไปยังโรงพยาบาลศิริราช บริเวณสถานีศิริราช จากนั้นจึงวิ่งลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาขนานไปกับสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ลอดใต้พื้นที่ถนนราชดำเนิน ผ่านสนามหลวง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 

แล้วเบี่ยงแนวเส้นทางไปตามแนวถนนหลานหลวงจนถึงแยกยมราช เลี้ยวขวาไปตามถนนเพชรบุรีจนถึงสี่แยกประตูน้ำ เลี้ยวซ้ายลอดใต้ถนนราชปรารภตรงไปถึงสามเหลี่ยมดินแดง แล้วจึงเลี้ยวขวาไปตามถนนดินแดง หลังจากนั้นจึงเลี้ยวซ้ายตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต แล้วเลี้ยวขวาผ่านกรุงเทพมหานคร 2 และเบี่ยงขวาลอดผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์ ไปยังสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 

จากนั้นแนวเส้นทางจะวิ่งขนานไปตามแนวถนนพระรามเก้าไปยังสถานี รฟม. ลอดใต้คลองแสนแสบ ก่อนเลี้ยวซ้ายไปตามถนนรามคำแหง ผ่านแยกลำสาลี ไปจนถึงบริเวณคลองบ้านม้า ก่อนเปลี่ยนแนวทางวิ่งจากอุโมงค์ใต้ดินเป็นทางวิ่งยกระดับ และวิ่งตามแนวถนนรามคำแหงไปจนถึงบริเวณคลองสองที่สถานีมีนบุรี ก่อนสิ้นสุดแนวเส้นทางที่สถานีสุวินทวงศ์ บริเวณสามแยกรามคำแหง – สุวินทวงศ์

เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,120 วันที่ 7 - 9 สิงหาคม พ.ศ. 2568