นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวในเวทีเสวนา "เวทีกลาง Entertainment Complex" ซึ่งจัดโดยสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ถึงแนวทางการพัฒนาโครงการ Entertainment Complex ที่มีกระแสข่าวว่าจะใช้พื้นที่บริเวณคลองเตย โดยยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องมีการสร้างกาสิโนเป็นองค์ประกอบของโครงการ
เพราะการพัฒนาในพื้นที่ดังกล่าวที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและมีศักยภาพสูงสามารถดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการมีกาสิโน ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจในบางมิติ
นายเทียนประสิทธิ์ ได้อธิบายว่า พื้นที่คลองเตยตามที่มีกระแสข่าวมีความเหมาะสมในการพัฒนาเป็น Entertainment Complex เพราะทำเลที่ตั้งติดแม่น้ำเจ้าพระยามีความสวยงาม และยังสามารถพัฒนาโครงการที่มีองค์ประกอบหลากหลาย เช่น สนามกีฬา คอนเสิร์ตฮอลล์ สวนสนุก โรงแรม ศูนย์การค้า รวมถึงกิจกรรมบันเทิงที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง
“การพัฒนาโครงการที่มีความหลากหลายจะทำให้เกิดการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพราะไม่ต้องพึ่งพาองค์ประกอบเดียว เช่น กาสิโน โดยเราสามารถสร้างรายได้จากภาคธุรกิจต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยว การจัดการประชุมและสัมมนา การจัดคอนเสิร์ต หรือการเปิดสวนสนุก ซึ่งทุกกิจกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจได้มากมาย” นายเทียนประสิทธิ์กล่าว
นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวด้วยว่า การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 80,000 ถึง 100,000 ล้านบาท ซึ่งเงินทุนที่ไหลเข้ามาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ สร้างงานให้กับคนในพื้นที่ สร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระดับโลก
นอกจากนี้ นายเทียนประสิทธิ์ยังเห็นว่า ความสำเร็จของโครงการขึ้นอยู่กับการวางแผนและการบริหารจัดการที่ดี โดยการมีการรวมกลุ่มลงทุนจากภาคเอกชน รวมทั้งการทำ Master Plan ร่วมกันเพื่อให้โครงการนี้สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
ในมุมมองของการมีกาสิโนเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ นายเทียนประสิทธิ์ เห็นว่าควรจะพิจารณาผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงความเห็นของประชาชนในพื้นที่โดยตรง ก่อนที่จะตัดสินใจ การมีประชามติในพื้นที่ที่ตั้งกาสิโนถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้เกิดความยินยอมรับจากชุมชนและภาคประชาชนอย่างแท้จริง
“การสร้างกาสิโนไม่ควรตั้งอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของประเทศ ซึ่งอาจจะกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่เป็นจุดขายสำคัญของประเทศไทย” นายเทียนประสิทธิ์กล่าว และแนะนำว่า ควรพิจารณาตั้งกาสิโนในพื้นที่ที่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 50-60 กิโลเมตร เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อชุมชนและการท่องเที่ยวในพื้นที่หลัก
พร้อมกับเสนอโมเดลการพัฒนาพื้นที่ที่คล้ายกับ Las Vegas ซึ่งมีการพัฒนาความเจริญไปสู่พื้นที่ที่มีศักยภาพ แต่ก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชน โดยให้ชุมชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการใหญ่เช่นนี้ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการพัฒนาและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่
นอกจากนี้ นายเทียนประสิทธิ์ ยังกล่าวถึงความสำเร็จของประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงที่สุดในอาเซียน แม้ว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา และเมียนมาจะมีการพัฒนากาสิโนจำนวนมาก แต่ประเทศไทยก็ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้สูงสุดโดยไม่ต้องมีกาสิโนเป็นจุดขายหลัก การลงทุนในโครงการ Entertainment Complex ที่เน้นความยั่งยืนด้านความปลอดภัย พลังงานสะอาด และกิจกรรมที่หลากหลายสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การพัฒนา Entertainment Complex ที่มีความยั่งยืนและเน้นเรื่องความปลอดภัย รวมถึงการจัดการพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับโลกโดยไม่ต้องพึ่งพากาสิโนเป็นจุดขายหลัก” นายเทียนประสิทธิ์กล่าว
พร้อมกับย้ำว่า การพัฒนาโครงการเช่นนี้ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก และควรมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การลงทุนในโครงการ Entertainment Complex นี้สามารถเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้การพิจารณาการมีกาสิโนในโครงการก็ต้องผ่านการศึกษาผลกระทบอย่างละเอียดและคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม