การเดินหน้านโยบายสถานบันเทิงครบวงจร(Entertainment Complex) ในประเทศไทย เป็นที่จับตาจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ที่รัฐบาลหวังเป็นโครงการสร้างปรากฏการณ์เปลี่ยนโฉมหน้าเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวครั้งใหญ่
ตามบทวิเคราะห์ล่าสุดจาก Inside Asian Gaming (IAG) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2568 ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในตลาดเกมระดับโลก แต่ทั้งนี้ยังมีข้อควรพิจารณาและความท้าทายที่รออยู่
จากข้อมูลบทวิเคราะห์ของ IAG ระบุว่า รายได้จากการเล่นเกมรวม (GGR) รายปีของตลาดในกรุงเทพฯ อาจสูงถึง 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 5.25 แสนล้านบาทซึ่งจะผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกทันที ระดับรายได้ดังกล่าวมีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับการลงทุนขั้นต่ำ 100,000 ล้านบาท (3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามที่ร่างกฎหมายกำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ดังกล่าวแสดงความกังวลว่า เงื่อนไขการวางเงินฝาก 50 ล้านบาทสำหรับคนไทย ที่ต้องการเข้าใช้บริการกาสิโน อาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายรายได้ดังกล่าว เนื่องจากจะจำกัดตลาดให้เหลือเพียงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยเพียงไม่กี่รายที่มีฐานะร่ำรวย
เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ประเทศไทยมีโอกาสเรียนรู้จากทั้งความสำเร็จและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
สิงคโปร์
มาเก๊า
ฟิลิปปินส์
Kevin Clayton ผู้บริหารระดับสูงจาก Galaxy Entertainment Group (GEG) คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเกือบ 40 ล้านคนในปี 2568 การเพิ่มเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ระดับโลกที่มีสิ่งดึงดูดหลากหลายนอกเหนือจากกาสิโน จะช่วยเพิ่มตัวเลขนี้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้าน Bill Hornbuckle จาก MGM ได้ให้ความเห็นว่าค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและดำเนินงานในประเทศไทยจะถูกกว่าหลายเขตอำนาจศาลอื่น ซึ่งหมายถึงการจ้างงานที่มากขึ้นและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นต่อบาทที่ลงทุน
ทั้งนี้ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะสร้างงานหลายพันตำแหน่งทั้งในช่วงก่อสร้างและช่วงดำเนินการ เปิดโอกาสการจ้างงานที่มีคุณภาพสำหรับแรงงานไทย
หนึ่งในเหตุผลหลักที่รัฐบาลไทยพิจารณาทำให้กาสิโนถูกกฎหมาย คือการจัดการกับปัญหาคาสิโนใต้ดินที่แพร่หลายและลดการเดินทางไปต่างประเทศของคนไทยเพื่อเล่นการพนัน อุตสาหกรรมที่มีการควบคุมอย่างถูกต้องจะสามารถ
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขเงินฝาก 50 ล้านบาทสำหรับคนไทย หากยังคงอยู่ในกฎหมายฉบับสุดท้าย จะขัดแย้งกับวัตถุประสงค์เหล่านี้โดยตรง เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่จะยังคงเข้าไม่ถึงคาสิโนที่ถูกกฎหมาย และอาจยังต้องพึ่งพาคาสิโนใต้ดินหรือเดินทางไปต่างประเทศต่อไป
Kevin Clayton จาก GEG ได้แสดงความเห็นว่า
"เราเข้าใจและชื่นชมความจำเป็นในการปกป้องผู้ที่อาจเปราะบาง และเรายืนยันว่าจะมีกระบวนการและขั้นตอนการเล่นเกมที่รับผิดชอบโดยละเอียด อย่างไรก็ตาม การจำกัดการเข้าคาสิโนเฉพาะคนไทยที่ร่ำรวยที่สุดจะเป็นอุปสรรคต่อระดับการลงทุนและการเติบโตของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศไทย"
ความสำเร็จในระยะยาวของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศไทยจะขึ้นอยู่กับการสร้างสมดุลที่เหมาะสม ระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้และดึงดูดนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็ต้องจัดการกับความกังวลทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการเล่นเกมกาสิโนอย่างมีความรับผิดชอบ
การกำหนดนโยบายและข้อบังคับที่สมดุลจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจอันมหาศาลนี้ โดยไม่สร้างผลกระทบด้านลบต่อสังคมไทย และเพื่อให้แน่ใจว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโอกาสครั้งสำคัญนี้
ที่มา - บทวิเคราะห์ของ Inside Asian Gaming (IAG) วันที่ 30 มีนาคม 2568