รัฐบาล เปิดสเปคพื้นที่สร้างโครงการ Entertainment Complex

วันที่ 19 มีนาคม 2568 นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวตอนหนึ่งเป็นลงรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในระหว่างการเสวนาโต๊ะกลมกรุงเทพธุรกิจ ภายใต้หัวข้อ "Entertainment Complex Game Changer for Thailand" โดยได้อธิบายถึงหลักการสำคัญ โครงสร้างการบริหารจัดการ ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการตอบข้อกังวลต่างๆ เกี่ยวกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ศึกษารูปแบบจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นต้นแบบสำคัญในการพัฒนากฎหมายฉบับนี้

 

 

ในการชี้แจง นายศึกษิษฏ์ได้เปิดเผยว่า ร่าง พ.ร.บ. มีการกำหนดเงื่อนไขสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะการกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 50 ล้านบาท และการจัดสรรพื้นที่โครงการ โดยกำหนดให้พื้นที่เกมมิ่ง (Gaming Area) ไม่เกิน 10% ของพื้นที่โครงการทั้งหมด

นายศึกษิษฏ์ อธิบายถึงโครงสร้างการบริหาร กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน  ซึ่งแสดงถึงความสำคัญในระดับสูงสุดของรัฐบาล ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและกฎเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงรูปแบบการให้ใบอนุญาต

 

 

คณะกรรมการบริหารสำนักงานควบคุม ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแล (Regulator) ที่มีอำนาจในการตรวจสอบการดำเนินงาน กำหนดมาตรฐาน และควบคุมการปฏิบัติตามเงื่อนไขของผู้ประกอบการ รวมถึงมีอำนาจในการปรับและสุ่มตรวจการดำเนินงาน

และมีการจัดตั้งสำนักงานที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเร่งรัดกระบวนการออกใบอนุญาตโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ ให้สามารถเปิดบริการได้พร้อมกันอย่างรวดเร็ว

 

การคัดเลือกผู้ประกอบการ รองเลขาธิการยนายกฯ ระบุว่า จะไม่ได้เป็นการประมูลแบบตรงไปตรงมาที่ดูแต่ราคาอย่างเดียว แต่จะเป็นการพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งเรื่องการลงทุน การจ้างงาน สิ่งที่ผู้ประกอบการจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ และราคาที่เสนอ

 

นายศึกษิษฏ์ กล่าวถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวโดยเน้นย้ำถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะนำมาสู่ประเทศไทย อาทิ โครงการนี้จะสร้างรายได้ตั้งแต่ช่วงการก่อสร้าง และต่อเนื่องไปถึงการดำเนินการ จะสร้างงานให้กับคนไทยในหลากหลายสาขา ทั้งในส่วนของเกมมิ่ง โรงแรม ร้านอาหาร และสถานบันเทิง

 

และจะช่วยดึงดูดกิจกรรมขนาดใหญ่ เช่น คอนเสิร์ตระดับโลก การแข่งขันกีฬา และอีเวนต์ต่างๆ ที่ไทยเคยพลาดโอกาสให้กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งจะช่วยแก้ปัญหาในช่วง Low Season ของการท่องเที่ยวไทย ซึ่งมักเกิดขึ้นในบางช่วงของปี

 

 

"ในปีที่ผ่านมา เราพลาดโอกาสในการจัดคอนเสิร์ตระดับโลกไปถึง 5 งาน เพราะเราไม่มีสเตเดียมเพราะราชมังคลาเต็มและสถานที่ที่เหมาะสม ซึ่งงานเหล่านี้ไปจัดที่สิงคโปร์แทน หากเรามีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เราจะสามารถดึงงานเหล่านี้มาจัดในประเทศไทยได้" นายศึกษิษฏ์กล่าว

 

การเลือกพื้นที่และการกระจายผลประโยชน์

 

เกี่ยวกับข้อกังวลในการเลือกพื้นที่ นายศึกษิษฏ์ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดจังหวัดที่แน่ชัด โดยจะต้องมีกฎหมายออกมาก่อนเพื่อให้อำนาจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการศึกษาและเสนอพื้นที่ที่เหมาะสม ทั้งนี้พื้นที่ที่จะเลือกต้องมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่ง ต้องมีความสะดวกในการเดินทาง และควรอยู่ในทำเลที่สามารถกระจายผลประโยชน์ให้กับธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบด้วย

 

"การสร้างในพื้นที่ห่างไกลอาจจะไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ ได้ ซึ่งจะลดผลประโยชน์ที่ควรจะกระจายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ในพื้นที่"

 

การบริหารจัดการเงินและการจัดตั้งกองทุน

 

ในประเด็นเรื่องการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการพนัน นายศึกษิษฏ์ได้ชี้แจงว่า มีข้อจำกัดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังที่ไม่สามารถจัดตั้งกองทุนใหม่ได้หากมีกองทุนที่ทำหน้าที่คล้ายกันอยู่แล้ว อาทิ สสส. จึงใช้แนวทางให้สำนักงานเป็นผู้บริหารจัดการเงินและกระจายไปยังหน่วยงานหรือโครงการต่างๆ ที่มีความเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาการพนัน การพัฒนาการศึกษา สาธารณสุข หรือโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากกว่าการตั้งกองทุนเฉพาะ

 

อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ร่าง พ.ร.บ. มีลักษณะเป็นกรอบกว้างๆ โดยไม่ระบุรายละเอียดมากเกินไป ว่าเป็นเพราะข้อจำกัดของกระบวนการแก้ไขกฎหมายในประเทศไทยที่ใช้เวลานาน การแก้ไขกฎหมายในประเทศไทย แม้แต่เพียงมาตราเดียวอาจใช้เวลาถึง 3 ปี ในขณะที่ประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ สามารถแก้ไขกฎหมายได้ภายใน 3 เดือน ดังนั้น เราจึงกำหนดเป็นกรอบกว้างๆ และให้อำนาจคณะกรรมการนโยบายในการกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์และบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป

 

 

การดูแลผลกระทบทางสังคมและป้องกันการฟอกเงิน

 

นายศึกษิษฏ์ยังได้กล่าวถึงมาตรการในการป้องกันผลกระทบทางสังคมและการฟอกเงิน โดยระบุว่าจะมีการกำหนดมาตรการในการป้องกันคนที่ไม่ควรเข้าเล่นการพนัน การกำหนดมาตรฐานของเครื่องเล่นและอุปกรณ์การพนัน รวมถึงการตรวจสอบการดำเนินงานของผู้ประกอบการอย่างเข้มงวด

 

"เรายังมีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน โดยลูกค้า VIP จะไม่สามารถนำเงินสดเข้าไปเล่นได้ แต่ต้องใช้ระบบเครดิตที่มีการตรวจสอบที่มาของเงิน ซึ่งเป็นมาตรการที่สิงคโปร์ใช้เพื่อลดความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน"

 

ในช่วงท้ายของการเสวนา นายศึกษิษฏ์ได้เน้นย้ำว่า การพัฒนาเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เพียงเพื่อการพนัน แต่เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและความบันเทิงในภาพรวม ซึ่งจะช่วยยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและความบันเทิงในระดับภูมิภาค

 

"เรามองว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นส่วนหนึ่งในการดึงการลงทุนเข้ามาเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในภาคการท่องเที่ยว โรงแรม อาหาร และการสร้างงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม"

 

นายศึกษิษฏ์ยังกล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาตามกระบวนการที่กำหนดไว้ต่อไป